* กดรับ Link นิยายรสแซ่บได้ที่ปกทุกปกเลยจ้าา *

niyayZAP Related E-Books Related E-Books Related E-Books Related E-Books Series E-Books niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน niyayZAP Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP Related E-Books niyayZAP niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books  Series E-Books

วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2566

อ่านนิยาย ☘ คุณหนูของลุงราม

อ่านนิยาย ☘ คุณหนูของลุงราม

❛ โ ป ร ย ❜

คุณเคยมีศัตรูที่ชื่อว่า 'ความรัก' ไหม?

ความรักที่เราเองก็ไม่รู้ตัวว่าจู่ๆ มันก็พุ่งมาจากทางใด หรือย่องมาจู่โจมเราจากทิศทางไหนก็สุดรู้

กว่าจะรู้ตัวอีกครั้งก็โน่นล่ะ .. จมปลัก .. รักเขาแล้วชนิดที่ถอนตัว ถอนหัวใจไม่ขึ้น

รัก … ทั้งที่ความแค้นแม่งก็ยังไม่ได้รับการเยียวยา

------------------ *

ช่างเถอะ .. ไปดูปิดทีวี ปิดแอร์ก่อนดีกว่า .. คนเราก็มีพลาด มีลืมกันได้น่า

หากทว่า .. พอคนตัวยักษ์สืบเท้าเข้าไปเดินชะโงกมองหารีโมทปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่โซฟานุ่มตัวยาว กลับมีเด็กสาวผิวขาวผ่อง หุ่นดี ใบหน้างดงามปานเทพธิดานอนสลบไสลระทดระทวยอยู่ตรงนั้น

เริ่มแรกเขาก็ตกใจ …
เชี่ยเอ้ย!! .. ต้องโดนวีนแน่ๆ กู

แต่ครั้นพอสืบเท้าเข้าไปใกล้ๆ .. ลมหายใจสงบ สม่ำเสมอ แปลว่าหลับลึกเลยแหะ!

หันซ้ายหันขวา จะปล่อยให้นอนแบบนี้ไปทั้งคืนคงไม่ได้ ... เดี๋ยวเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตายห่า .. ตื่นเช้ามาเด็กแว่นแก้วจะโดนวีนเอาซะอีก .. เลยตัดสินใจเดินกลับไปหลังบ้านมุ่งหน้าไปที่ตึกเล็กด้านข้างอีกฝั่ง หยุดเคาะประตู โป๊ก!! โป๊ก!! ที่หน้าห้องของสาวใช้ผู้ช่วยแม่บ้าน แต่ก็ทั้งเคาะทั้งทุบจนประตูจะพังทั้งบานแล้ว ขนาดเขาโทรเข้าไปหาก็แล้ว เด็กแก้วก็ไม่ยอมตื่น … มีแต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังลอดออกมาถึงหน้าประตู แต่ไม่มีใครรับ ไม่มีเสียงใครขยับเคลื่อนไหว

เลยนึกขึ้นมาได้ว่า … อ่อ … เมื่อหัวค่ำเด็กแก้วบอกเล่าเขาไว้แล้วว่ากินยานอนหลับเพราะปวดหัวไมเกรนกำเริบอยู่

เลยจำต้องเดินกลับมาที่ห้องโถงใหญ่ของบ้านตามลำพังอีกหน หนนี้หางตาก็ตวัดไปเห็นกล่องนมเปรี้ยวว่างเปล่าที่วางบนโต๊ะเล็กๆ ข้างโซฟา แล้วนึกถึงบทสนทนากับเด็กสาวขึ้นมาก็จำได้ทันที

นี่มันนมยี่ห้อเดียวกับที่เด็กแก้วฝากเขาซื้อเมื่อบ่ายนี่หว่า?

ฉิบหายแล้ว .. แล้วเด็กนั่นมันบดยาลงไปกี่เม็ดก็ไม่รู้ .. เพราะทางโน้นก็หลับเป็นตายอยู่ในห้องไม่ยอมตื่น

ลองยกกล่องเขย่าๆ … เบาหวิว

นี่ดื่มหมดเกลี้ยงกล่องกันเลยเชียวหรอคุณหนูของกู!!

เฮ้อออ … เอาไงดีหว่า?

... และท้ายที่สุดก็ ...
。.:*・❀ ขอรับประกันความแซบส์..เช่นเคยค่ะ ❀.。.*・

• คุณหนูของลุงราม : MY SWEET LADY •

‼️ คำเตือน พิเศษโดยเฉพาะนิยายเรื่องนี้‼️
ความสัมพันธ์ระหว่างพระ-นางจะเป็นไปในรูปแบบ Nub-Con (เต็มใจโดยไม่เต็มใจ) แต่จบแบบสุขนิยมตามสไตล์นิยายขายฝัน .. ดังนั้น .. ใครที่ไม่ชอบงานแนวๆ นี้ โปรดหลีกเลี่ยงนะคะ
โปรดฟังนะคะ โปรดฟัง .. เพื่อที่คุณจะไม่ต้องพลาดอะไรไป!!!
ข่าวดีที่ 1 : ถึงใครที่กำลังคิดมองหาวิธีเลือกเพศให้ลูกคุณเองได้ .. คุณต้องอ่านนิยายเรื่องนี้‼️
ข่าวดีที่ 2 : โทษฐานที่ปล่อยให้รอนิยายเรื่องนี้อยู่นานเกินไปกว่าที่นิยายเรื่องนี้จะออกมาถวายตัวแก่คุณนักอ่านที่น่ารักทุกท่านได้ ดังนั้นไรท์จึงจะขอทำโทษตัวเองด้วยการจะจัดทำตอนพิเศษเพื่อเป็นการสังเวยบูชาความผิดตนเองอีกครั้งนะคะ และจงโปรดติดตามเรื่องราวตอนพิเศษที่จะปล่อยตามไปเร็วๆ นี้ได้เลยค่ะ ขอรับประกันความ หื่น ฮา น่ารัก และแซ่บซ่านจนนิพพานสีชมพูเหมือนเช่นเคย
เส้นแนวนอน
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวฮ็อตโรมานซ์ที่อาจจะเกินมาตรฐานที่หลายคนคุ้นเคย แต่ก็ยังคงเป็นงานวรรณกรรม ในหมวดหมู่นิยาย จึงไม่มีอันตรายต่อสัตว์หรือคน สำหรับชื่อ ตัวละคร สถานที่ และเหตุการณ์ที่บรรยายออกมานับเป็นผลงานจากจินตนาการของผู้สร้างผลงานขึ้นมาล้วนๆ ดังนั้น ความคล้ายคลึงใดๆ กับชื่อ สถานที่ วันที่ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง .. นั่นคือเรื่องบังเอิญ ..
ติดตามกันบนโซเชียลมีเดียเพื่อรับข่าวสารล่าสุด!
Instagram: @niyayzap
Facebook: @NiyayZAP
🍁 ⍣⍣⍣ ราคาบน Apple อาจจะแตกต่างกันมาก แนะนำให้คุณนักอ่านเลือกโหลดผ่านทาง web 'MEBmarket' ที่นั่นคุณจะได้ราคาที่ต่ำกว่าและสามารถอ่านนิยายผ่าน Application ได้ตามปกติเหมือนเดิมนะคะ ⍣⍣⍣ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกโหลดค่ะ 🍁
🦋• คุณหนูของลุงราม : MY SWEET LADY •🦋

บทที่ 1 : เพิ่มความผ่อนคลายสมองมึนๆ


คุณเคยมีศัตรูที่ชื่อว่า 'ความรัก' ไหม?

ความรักที่เราเองก็ไม่รู้ตัวว่าจู่ๆ มันก็พุ่งมาจากทางใด หรือย่องมาจู่โจมเราจากทิศทางไหนก็สุดรู้

กว่าจะรู้ตัวอีกครั้งก็โน่นล่ะ จมปัก .. รักเขาแล้วชนิดที่ถอนตัว ถอนหัวใจไม่ขึ้น

รัก … ทั้งที่ความแค้นแม่งก็ยังไม่ได้รับการเยียวยา

------------------ *

ค่ำคืนหนึ่งท่ามกลางฤดูฝนต้นหนาว ที่มีดวงดาวดาษดาพร่างอยู่เต็มฟากฟ้า บรรยากาศน่าจะเหมือนว่าจะอัดอิ่มอยู่ใต้ความเงียบสงบ แต่ทว่า ณ ด้านหลังของคฤหาสน์หินสีแดงหลังหนึ่งกลับมีเสียงดนตรีสากลอันอึกทึก แถมที่ลานตรงกลางยังจะมีหนุ่มน้อยหน้าสวย สาวน้อยหน้าใสที่แต่งตัวงดงามออกมาประชันโฉม อวดโอ้คุยเล่นกันสนุกสนานกันมาตั้งแต่บ่าย พร้อมกับเหล่าคนรับใช้เดินกันขวักไขว่อลเวง เพราะต้องคอยรับฟังคำสั่งของเหล่าเทวดา ไม่ก็นางฟ้าผู้เอาแต่ใจนิสัยเสียบางคนมาหลายชั่วโมงกันแล้ว

และที่มุมหนึ่งตรงริมสระว่ายน้ำประดับด้วยน้ำตกเทียมแปะด้านข้างมันไว้ด้วยหินสลักเป็นรูปนางอัปสรสวรรค์อันเลียนแบบสถาปัตยกรรมจากขอมโบราณเพราะเป็นรสนิยมของเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้เขาน่ะสิ ที่นั่น .. ปรากฏร่างของสาวน้อยผิวผ่อง รูปร่างสูงโปร่งในชุดราตรียาว นางหนึ่งก็นวยนาดเข้าไปแตะแขนเจ้าภาพวัยดรุณีที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ

"ข้าวฟ่าง .. เราปวดหัว มึนหัวมาก สงสัยจะไม่ไหวละคืนนี้ ขอตัวกลับบ้านก่อนได้ไหม"

"อ๊ะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า ไหนดูสิ เออ ตัวรุมๆ สงสัยจะไข้แดด พอร์ชไม่ชอบอากาศร้อนชื้นแบบนี้นี่"

"อื้อ นั่นแหละ"

"ไปหมอไหม ที่คลินิกใกล้ๆ นี้ที่เคยไป"

"ไม่เอา ข้างฟ้างก็รู้ว่าเราไม่ถูกกับกลิ่นยา เข็มฉีดยา ยัยหมอใหม่ที่คลินิกนั้นมือหนักฉิบหายเลย เข็ด"

"เออ ก็เราเป็นห่วงพอร์ชไง .. งั้นขึ้นไปนอนพักที่ห้องเราก่อนไหม"

"ไม่เอาละ เสียงเพลงที่สนามนี่มันดัง ตึงๆ เราจะยิ่งปวดหัวหนัก"

"จะกลับบ้านหรอ แต่พ่อแม่พอร์ชไม่อยู่มีใครอยู่บ้านครบกันทั้งสองคนอีกแล้วนี่ ช่วงนี้ ใช่หรือเปล่า"

มารดาของสาวน้อยคนป่วยมักจะชอบไปออกทริปท่องเที่ยวต่างประเทศกับบรรดาเพื่อนๆ แก๊งคุณนายประจำ ส่วนบิดาเพิ่งจะพาเมียน้อยคนล่าสุดที่เป็นนักศึกษามาฝึกงานที่บริษัทของบิดาไปเทรนงานกันบนเรือสำราญ อีกหลายวันเชียวละกว่าทั้งคู่จะกลับ ซึ่งเธอก็เคยชินกับการที่พ่อไปทาง แม่ไปทางมานานแล้วทั้งชีวิต ส่วนพี่ชายที่เกิดจากพ่อแม่เดียวกันก็ถูกส่งไปอยู่ต่างประเทศเนื่องจากต้องการหนีคดีขับรถไปชนคนตายทั้งครอบครัวมาตั้งแต่เขาแรกเริ่มเป็นวัยรุ่น ป่านนี้ยังไม่มีวี่แววเลยว่าคนก่อเรื่องนั้นจะได้กลับประเทศแผ่นดินเกิดเมื่อไร อีกอย่าง เธอกับพี่ชาย อายุห่างกันเยอะมาก จนแทบเรียกว่าไม่สนิทกัน

"มันก็เป็นแบบนี้มาทั้งชีวิตฉันแล้ว แกก็รู้"

"เอ่อๆ มันก็เหมือนกับเราน่ะแหละ .. งั้นก็ตามใจพอร์ชเถอะ อืม...ตอนนี้รถไม่ติด คงใช้เวลาถึงบ้านไม่เท่าไร งั้นรีบกลับไปพัก นี่ หน้าซีดใหญ่เชียว"

"สงสัยน่าจะไข้แดดที่ข้าวฟ่างบอกน่ะแหละ คงไม่เป็นอะไรมาก แต่เวียนหัวจัง แล้วเราก็ยากจะนอนพักแค่นั้นละ"

"อะ งั้นตามใจค่ะคุณหนู .. และนี่ .. โทรเรียกลุงรามให้มารับยัง?"

"โทรแล้ว ตาลุงหน้าผีนี่งุ่มง่ามมาก เกลียดชะมัด"

"อ๊ะ! อย่าไปว่า สงสารลุงเขานะ อะ! นั่น ตายยากแหะ .. โน่นแนะ อ้อมรถมารับคุณหนูจอมเหวี่ยงแล้ว ทางโน้น"

"งั้นเราไปล่ะ สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะข้าวฟ่างแสนสวย แล้วอย่าลืมแกะของขวัญของเรานะ รับรองว่าเพื่อนสาวต้องชอบมันมากๆ แน่"

"เอ่อๆ ขอบใจเพื่อนพอร์ชผู้น่ารักอีกครั้งค่ะ แล้วพรุ่งนี้เดี๋ยวโทรคุยไปเม้าท์นะคะ คุณหนู"

"อื้อ ฝากเซย์กู๊ดไนท์กับเพื่อนแก๊งเราด้วย สนุกกันอยู่กลางฟอร์ เราไม่อยากผ่ากลางวงไปกวน"

"อื้อ ได้เลย โน่น ลุงรามออกมายืนก้มหน้าเพราะไม่กล้าสบตาคุณหนู รออยู่นานแล้ว""

'อินทร์ณภัสสร' ปรายตามองชายตัวใหญ่ คนรับใช้ใบหน้าอัปลักษณ์ด้วยอาการเชิดๆ หยิ่งๆ และเธอก็คืออีกหนึ่งในกลุ่มคุณหนูแสนสวยในแก๊งเทพธิดาคาวาอี้ และเป็นบุตรีสุดรักของนักธุรกิจใหญ่ผู้ซึ่งมีนิสัยเจ้าชู้และเป็นผู้ที่ชื่นชอบการมีบ้านเล็กบ้านน้อยเป็นของสะสม จึงมีลูกๆ อยู่ไปทั่วทุกหัวมุมเมือง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขากลับดันมีเพียงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว 'คุณหนูพอร์ช' สาวน้อยลูกผสมฝรั่งเศส เวียดนาม - ไทย ในวัยสิบแปด และตอนนี้เธอก็กลายมาเป็นนักศึกษาสาวของมหาลัยนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดทางภาคเหนือ ที่นิสัยเชิดหยิ่งเอาแต่ใจที่สุดในกลุ่มจนขึ้นชื่อ

แต่หลังจากกลับมาจากการไปร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนสนิท ที่หญิงสาวจำเป็นต้องเสียมารยาทขอตัวกลับออกมาก่อนเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัว จนต้องโทรเรียกหาคนขับรถของที่บ้านเธอที่มาส่งและรอรับกลับให้รีบมารับ แม้คนขับรถผู้เคร่งขรึม แต่แคล่วคล่องผู้หน้าตาอัปลักษณ์จะใช้เวลาเพียงแค่ไม่เกินห้านาทีก็ตีรถเลี้ยวมาถึง ถึงกระนั้นคุณหนูผู้เอาแต่ใจก็ยังจะชักสีหน้า หงิกงอ อารมณ์เสียใส่เขาอยู่ดี

และหากพอกลับถึงบ้านเธอก็รีบเดินขึ้นห้องตนเองทันที โดยไม่สนใจว่าคนขับรถกึ่งบอดี้การ์ดหน้าตาอัปลักษณ์แต่มาดเท่สุดๆ จะเอื้อมมือมาจะเปิดประตูฝั่งของเธอให้ แถมยังจะผลักประตูสวนใส่เขาจนคนเอื้อมจะเปิดประตูต้องรีบชักมือหนี แถมยังจะกระโดดหลบได้ไม่ทัน คุณหนูสาวสบถเบาๆ

"ซุ่มซ่าม" จากนั้นก็เชิดหน้า ก้าวเดินฉับๆ ขึ้นบ้านไปเลยโดยไม่แลมองหรือสนใจใคร

"เจ็บไหมลุง?" แว่นแก้ว เด็กทำงานบ้านยื่นหน้ามาถามคนตัวใหญ่เพราะเห็นเขายืนสะบัดมือใหญ่ไหวๆ บรรเทาเจ็บ

"ไม่เป็นไร นิ้วคงซ่นนิดหน่อย เดี๋ยวนวดยาหม่องก็คงหาย" เขาตอบก่อนจะเลื่อนตัวกลับเข้ารถ เอาไปจอดที่โรงเก็บ

ขณะเดียวกัน ...

สาวน้อยผู้เป็นเจ้าของวงหน้างดงามสง่า เรือนร่างสมส่วน งามระหง กระเป๋าถือใบเล็กกระจิ๋วแต่แพงขนาดซื้อรถได้ทั้งคันแต่ตอนนี้มันดันถูกเหวี่ยงบนโต๊ะเครื่องแป้งราวกับเป็นสิ่งของไร้ราคา และยามเมื่อคนอารมณ์ขุ่นมัวเงยหน้าขึ้น มองเห็นตัวเธอเองในเงาสะท้อนของกระจกกรอบขาวสีงาช้าง .. ภาพที่ปรากฏบนนั้นคือสาวน้อยวัยดรุณีที่มีใบหน้าหวาน ใส .. วงหน้ารูปไข่ ผมยาวดำสนิทตามสายเลือดเอเชียที่มีมากกว่า ทิ้งตัวเหยียดยาว นุ่ม สลวย ยิ่งยามเมื่อมันกระทบแสงไฟในห้องก็จะส่องประกาย งามจับตา .. ดูเถอะ แม้ว่าจะไร้ซึ่งเครื่องประทินโฉมใดแล้วในยามนี้เพราะพอเมื่อก้าวมาถึงหน้ากระจก เธอก็จัดการนวดคลีนซิ่งเจลกำจัดมันออกก่อนแล้วเป็นอันดับแรกสุดก่อนเช็ดตามด้วยคลีนเซอร์ แต่ถึงอย่างไรดวงตาคู่งามก็ยังจะเรียกว่าแทบจะทำให้ลมหายใจหลายคนสะดุดลงได้ เพราะมันจะยังคงคมซึ้ง ละเมียดละมุนจนฉุดใจใครก็ตามที่หันมาสบตามอง

และที่ใบหน้านวลแฉล้ม น่ารัก บริสุทธิ์นั้น ที่ถึงแม้ยามเครื่องสำอางจะถูกลบออกไปจนหมดจรดแล้วตอนนี้แต่ก็มิได้ทำความงดงามพริ้มเพราดูลดน้อยด้อยค่าลงไปได้ ต่ำลงไป ชุดเดรสสั้นกลางคืนในสไตล์สาววัยรุ่นสีแดงเข้มจนเกือบค่อนไปทางดำ ตัดเย็บจากกำมะหยี่ที่เธอสวมใส่ยังจะช่วยขับให้ผิวขาวผ่องเป็นยองใย นวลตา .. แทนแขนเสลาเอื้อมอ้อมไหล่ส่งปลายมือไปปลดตะขอ รูดซิปลง และปล่อยให้อาภรณ์โสภาชิ้นแพงระยับ พริ้วไหว ไหลลงไปกองที่ข้อเท้า ก่อนจะก้าวข้ามชุดนั้นออกมา จนเผยให้ร่างงามอวบอิ่มที่ยังติดอยู่ใต้ชุดชั้นในกรุลูกไม้สีดำสนิทที่กลมกลืนไปกับถุงน่องแบบเต็มตัวสีเดียวกัน 

เจ้าของร่างเล็กเพรียวบางก้มตัวลง เพื่อจะได้รูดมันผ่านเรียวขาเสลาทั้งสองข้างได้อย่างถนัด ก่อนจะม้วนพันราวลูกบอล แล้วเอี้ยวตัวโยนส่งเดชไป โดยไม่สนใจว่ามันจะตกลงตะกร้าหรือไม่ใดๆ เลย .. เสร็จจากนั้นก็หันหลังไปพาดแขวนชุดราตรีแสนแพงไว้บนที่ราว เพื่อรอให้แม่บ้านนำเก็บมันไปซักอบใหม่ในวันพรุ่งนี้

ฝ่ามือบางขาวเอื้อมอ้อมอีกครั้งเพื่อมาปลดตะขอบราเซียยี่ห้อแพงซึ่งห่อหุ้มประทุมถันอันชูชัน จนเผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอั๋นและขาวผ่อง แต้มประดับยอดปลายจะงอยไว้ด้วยชมพูกุหลาบสีเข้ม แสนสวย ที่ดีดผึงเป็นอิสระจากปราการกรุลูกไม้ตัวน้อย แต่มันก็มีโอกาสได้ทอดเงาอยู่ในกระจกได้เพียงครู่เดียว ก่อนที่เจ้าของมันจะเอื้อมมือไปคว้าชุดคลุมอาบน้ำสีม่วงอมน้ำเงินมาห่อหุ้มตัวพร้อมก้าวตรงไปยังห้องน้ำส่วนตัวอันหรูหรา มีจากุชชี่

สงสัยวันนี้ อากาศข้างนอกจะร้อนอบอ้าวเกินไป ยิ่งงานวันเกิดเพื่อนสนิทที่จัดกลางแจ้ง และสนามหญ้ามันคงยังจะอมแดดแรงๆ มาทั้งวัน แม้อาทิตย์จะลับแสงไม่เนิ่นนานแล้ว แต่คนแพ้ความร้อน เพราะชินกับอากาศเย็นของต่างประเทศมากกว่าเพราะเธอเพิ่งจะเดินทางกลับมาอยู่ประเทศไทยไม่ไม่ถึงสามสัปดาห์ จึงทำท่าจะไปไม่รอด เพราะมันปวดหัว เวียนหัว จนต้องรีบรี่ขอตัวกลับออกมาทั้งที่ยังเพียงแค่หัวค่ำ แม้จะรู้ว่าเสียมารยาท แต่เหล่าเพื่อนสนิทของเธอก็น่าจะเข้าใจดีอยู่แล้วล่ะ เชื่อเถอะ

ความเพลีย ความมึนหัว ทำให้อินทร์ณภัสสรคิดว่าการแช่ในน้ำอุ่นๆ สักพักน่าจะทำให้รู้สึกดีขึ้น

เปิดน้ำไว้จนเต็มอ่างจากุชชี่ เลือกบาธบอมบ์กลิ่นลาเวนเดอร์หย่อนลงไปจนมันเกิดฟองฟู่ 

กลิ่นหอมและสีสันที่กระจายตัวฟู ฟุ้ง .. ยิ่งช่วยเพิ่มความผ่อนคลายสมองมึนๆ

🦋• คุณหนูของลุงราม : MY SWEET LADY •🦋

บทที่ 2 : ตกตายไปด้วยพร้อมกัน


ลงมือรวบผมยาวสยายขมวดเป็นมวยง่ายๆ หลวมๆ จากนั้นก็จำกัดชุดคลุมขนหนูตัวหนาพาดราวไม้คลาสสิก 

ยื่นนิ้วเกี่ยวขอบอาภรณ์ตัวจิ๋ว รูดออกไปทางปลายเท้าเปลือยเปล่า ปลดปล่อยอิสระ

พลัน .. ร่างอวบอิ่มงามระหงก็ส่องประกายกระจ่างตา

ก่อนที่เจ้าของเรือนร่างงามราวเทพปั้นนั้นจะก้าวลงไปนอนเหยียดยาว แช่ตัวในฟองฟูนุ่มละมุน กลิ่นหอมและความอุ่นของน้ำทำให้กล้ามเนื้อเริ่มผ่อนคลาย ชุบชูด้วยความสุข ความสบายทั้งหมดที่มี

เพียงครู่ใหญ่ ที่ยอมจ่อมจมอยู่ในความรื่นรมย์ จนแน่ใจว่าตนรู้สึกสดชื่นดีขึ้นมามากแล้ว เธอจึงเริ่มลงมือขัดสีฉวีวรรณตนเองจนจิตใจผ่องใส จากนั้นจึงยอมก้าวกายออกจากอ่าง ทำความสะอาดล้างฟองออกจากตัวใต้ฝักบัวใหญ่ .. เช็ดตัวให้แห้งและอุ่น โดยไม่ลืมทาครีมบำรุงผิวประทินโฉมที่แพงระยับที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนคว้าชุดนอนเนื้อนุ่มเย็นลื่นบางเบามาสวมใส่

และด้วยนิสัยของเธอเองที่ก่อนนอนจะชอบดื่มนมมาแต่ไหนแต่ไร แต่พอเปิดมินิบาร์แล้วขมวดคิ้วสงสัยว่า ป้าจำเนียรคงจะลืมนำมันมาเติมไว้ให้ซะละมังวันนี้

สาวน้อยเอาแต่ใจชักสีหน้าขุ่นๆ .. แต่พอนึกได้ว่า ..

อ่อ! บ้าจริง!! เธอลืมไปซะสนิท เมื่อบ่าย ป้าแม่บ้านใหญ่เพิ่งมาขอวันหยุดเพื่อลากลับบ้านที่อยู่จังหวัดติดกันนี้ เหตุผลเพราะญาติสนิทของแกป่วยหนัก ซึ่งญาติหญิงคนนั้นเขาไม่มีลูกหลานคอยดูแล แกเลยมาขอกลับไปเยี่ยมเยือนดูแลกันสักสองสามวัน โดยทิ้งเด็กสาวผู้ช่วยคนหนึ่งไว้ กับ 'ราม' กึ่งคนขับรถกึ่งบอดี้การ์ดวัยลุงที่มาคอยดูแลเธอ ซึ่งเขามีนิสัยเคร่ง นิ่ง ขรึม แต่หน้าตาอัปลักษณ์ ที่มาที่ไปเธอไม่ทันได้สนใจใคร่รู้นัก รู้แค่ว่าบิดารับมาจากการแนะนำของเพื่อนสนิท ที่ปกติเขาจะคอยแต่ดูแลความปลอดภัยให้บิดาเวลาไปไหนมาไหน แต่หลังๆ บิดาต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยขึ้น อยู่ดูแลธุรกิจที่สิงคโปร์นานขึ้น ประจวบกับเธอกลับมาอยู่บ้าน รามเลยกลายมาเป็นบอดี้การ์ดพ่วงตำแหน่งคนขับรถของเธอแทน

ส่วนเด็กแว่นแก้ว เป็นสาวรุ่นหลานห่างๆ ของป้าจำเนียรเองที่เพิ่งเข้ามาทำงานไม่นานนี้ ก่อนที่คุณหนูสาวจะบินกลับมาอยู่บ้านนี้ได้ไม่นาน ก็เลยคงจะยังไม่ค่อยรู้ใจคุณหนูสาวสักเท่าไร ไม่ละเอียดพอ จึงไม่ได้มาตรวจมาเตรียมนมไว้ให้เธอดื่มในคืนนี้ .. ชั่งเถอะ ไม่เป็นไร … ตอนนี้อาบน้ำเสร็จใหม่สบายใจสบายหัว เลยว่าจะลงไปนั่งดูทีวีจอยักษ์ที่ด้านล่าง ห้องนั่งเล่น

ในตู้เย็นใหญ่ที่ครัวคงจะพอมีอยู่ ตอนแรกว่าจะกดกริ่งเรียกเด็กแก้วนั่นแหละให้นำนมขึ้นมาให้ แต่มองเวลาว่ามันคือช่วงเวลาพักผ่อนของคนทำงานบ้านแล้ว จึงเดินลงมาหยิบเอง … อาจคงเพราะบรรยากาศแบบนี้ เธอชอบอยู่เงียบๆ ลำพังคนเดียวด้วยนี่แหละ

แต่พอเข้าครัวเดินไปเปิดตู้เย็นขนาดใหญ่กว่าตู้เสื้อผ้าของคนบางบ้านซะอีกสิ ทว่า..นมยี่ห้อที่เธอชอบดื่มกลับไม่มี มีแค่โยเกิร์ตน้ำผลไม้ที่ยี่ห้อนี้เธอเองก็ชอบดื่มเช่นกันอยู่หนึ่งกล่องกลาง กับนมรสอื่นๆ ที่เธอไม่ได้นึกอยากจะดื่มมันนักในค่ำนี้ เลยเดาว่าสงสัยนมยี่ห้อประจำคงขาดตลาดอยู่มัง? แม่บ้านเลยซื้อนมเปรี้ยวยี่ห้อนี้มาสำรองเผื่อไว้ให้แทนแล้วคงลืมบอกเธอน่ะแหละ

เลยเดินหยิบกล่องนมทั้งกล่องนั้นกับขนมขบเคี้ยวมานั่งดื่มที่ห้องโถง กดรีโมททีวีดูด้วยความเคยชิน

ถ้าไม่มีทีวี .. บ้านนี้จะเงียบเหงาวังเวงพิลึกเลย

………..

ก๊อกๆๆ

เสียงมีใครสักคนมาเคาะประตูกระท่อมคนขับรถอัปลักษณ์เพราะอุบัติเหตุวัยลุงที่แยกออกมาพักเดี่ยวๆ ริมท้ายสวน

หากพอเจ้าของห้องเปิดประตูโผล่หน้ามาดู เพราะเขาเองก็นุ่งอยู่แค่ผ้าขาวม้าตัวเดียวเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ก้าวจากห้องไม่ทันทำอะไรเลยก็มีคนมาเคาะประตู

"มีอะไรหรือแก้ว?" เขาถามเด็กสาวหน้าตาซื่อๆ แป๋วๆ ที่พอจะชะโงกหน้ามาดูคนเปิดประตูว่าทำไมไม่ออกมาคุยเต็มตัวก็โดนคนตัวใหญ่ผลักหัวกันไว้ก่อนทันที

"ลุงโป๊อยู่ อย่ามาทะลึ่ง!"

"อ้าว .. หนูไม่รู้นี่"

"มีอะไร"

"คุณหนูให้เอายามาให้" คนบอกยื่นมือ ยื่นหลอดยาทาแก้บวมแก้เคล็ดส่งให้เต็มหลอด

คนรับแม้จะทำหน้างง แต่ยื่นมือมารับแต่โดนดี ทั้งที่ก้มหน้าแต่มุมปากที่โดนไฟลวกจนอัปลักษณ์ก็ยังจะกระตุกคลี่

"ก็บอกแล้วว่ามียาหม่อง" เผลอพึมพำบ่นลมบ่นแล้ง

"ก็คุณหนูเขาไม่ได้ยิน" เด็กแก้วพาซื่อ

ครานี้คนตัวสูงใหญ่สูงวัยที่อึ้งอยู่ จึงไม่ได้ตอบ

"อ่อ! ลุงน่ะชวนหนูคุยจะเกือบลืม ตะกี้นี้ป้าจำเนียรเขาบอกว่าโทรมาหาลุงแล้วแต่ลุงไม่รับ สงสัยอาบน้ำอยู่เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์แหละมัง" 

"เอ่อ น่าจะใช่ .. แล้วเขาจะโทรหาลุงทำไม?"

"ป้าแกกำชับมาให้บอกว่า .. ก่อนลุงจะเข้านอนอย่าลืมไปเดินตรวจตราดูปิดบ้านปิดรั้ว กับประตูหน้าต่างบ้านใหญ่ให้แน่นหนาเรียบร้อย เพราะในส่วนของหนู หนูก็ปิดหมดแล้วล่ะ แต่บางทีคุณพอร์ชเธอก็ชอบนอนดึก หนูกลัวเขาจะลงมาดูซีรีส์ฝรั่งเรื่องโปรดของเขาคืนนี้ ปกติหนูกับป้าจะคอยผลัดกันมาดู มาตามไล่ปิดอีกหน .. แต่วันนี้หนูดันมีอาการไมเกรนกำเริบ เลยต้องบดผสมยานอนหลับลงในนมเปรี้ยวเพราะถ้าให้กินยาเพียวๆ มันจะขย้อนออกมาหมด นี่ก็เพิ่งกินยาไปตะกี้ แล้วหนูกลัวว่าฤทธิ์ยานอนหลับมันจะลากหนูสลบ ..ยังไงก็.. ก่อนจะนอน ลุงช่วยเดินไปตรวจซ้ำอีกหนได้เปล่า?"

"อ่อ ไอ้นมกล่องที่เอ็งฝากลุงซื้อเมื่อบ่ายน่ะหรือ?" 

นึกถึงนมเปรี้ยวกล่องเขื่องๆ ที่เด็กสาวฝากเขาแวะซื้อที่ร้านค้ามาให้แทบทุกวัน

"อื้อ นั่นแหละ" แว่นแก้วพยักหน้า ก่อนกำชับผู้ชายตัวใหญ่ที่ระวังตัวเป็นนางอายเพราะยืนโป๊อยู่หลังประตูอีกหน

"อย่าลืมไปเดินตรวจประตูหน้าต่างที่ในบ้านใหญ่ด้วยนะลุง กลัวคุณหนูเธอจะเดินลงมาเปิดทิ้งไว้อีกเพราะชอบลงมาดูทีวีตอนดึกๆ หลายครั้งละที่ลงมาเปิดแอร์ เปิดทีวีทิ้งไว้ประจำเลย แล้วพอค่าน้ำค่าไฟแพง คุณนายท่านเขาก็มาบ่นพวกหนู เขาไม่กล้าว่าลูกสาวตัวเอง"

"เอ่อๆ .. รู้แล้วน่า เดี๋ยวจะแวะไปดูให้" พยักหน้าหงึกหงักรับคำให้ อีกฝ่ายจะได้สบายใจ

และนับจากนั้น สักราวสี่ทุ่มกว่า เจ้าของร่างทะมึนตัวสูงใหญ่จึงเดินท่อมๆ ออกมาสำรวจตรวจตราบริเวณรอบรั้วบ้าน ก่อนจะเดินมาส่องไปฉายตรวจดูที่ข้างตึก ทุกอย่างดูเงียบสงบ จนกระทั่งเดินผ่านมาที่ห้องนั่งเล่นเขาก็ได้ยินเสียงทีวี ร่างตะคุ่มเลยตัดสินใจเดินวนกลับมาทางประตูหลัง 

นั่นไง .. ไหนเด็กแว่นแก้วบอกว่าปิดประตูดีหมดแล้วไงนี่ .. แล้วทำไมเขายังเปิดเข้ามาได้?

ช่างเถอะ .. ไปดูปิดทีวี ปิดแอร์ก่อนดีกว่า .. คนเราก็มีพลาด มีลืมกันได้น่า 

หากทว่า .. พอคนตัวยักษ์สืบเท้าเข้าไปเดินชะโงกมองหารีโมทปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่โซฟานุ่มตัวยาว กลับมีเด็กสาวผิวขาวผ่อง หุ่นดี ใบหน้างดงามปานเทพธิดานอนสลบไสลระทดระทวยอยู่ตรงนั้น

เริ่มแรกเขาก็ตกใจ … 

เชี่ยเอ้ย!! .. ต้องโดนวีนแน่ๆ กู

แต่ครั้นพอสืบเท้าเข้าไปใกล้ๆ .. ลมหายใจสงบ สม่ำเสมอ แปลว่าหลับลึกเลยแหะ!

หันซ้ายหันขวา จะปล่อยให้นอนแบบนี้ไปทั้งคืนคงไม่ได้ ... เดี๋ยวเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตายห่า .. ตื่นเช้ามาเด็กแว่นแก้วจะโดนวีนเอาซะอีก .. เลยตัดสินใจเดินกลับไปหลังบ้านมุ่งหน้าไปที่ตึกเล็กด้านข้างอีกฝั่ง หยุดเคาะประตู โป๊ก!! โป๊ก!! ที่หน้าห้องของสาวใช้ผู้ช่วยแม่บ้าน แต่ก็ทั้งเคาะทั้งทุบจนประตูจะพังทั้งบานแล้ว ขนาดเขาโทรเข้าไปหาก็แล้ว เด็กแก้วก็ไม่ยอมตื่น … มีแต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังลอดออกมาถึงหน้าประตู แต่ไม่มีใครรับ ไม่มีเสียงใครขยับเคลื่อนไหว

เลยนึกขึ้นมาได้ว่า … อ่อ … เมื่อหัวค่ำเด็กแก้วบอกเล่าเขาไว้แล้วว่ากินยานอนหลับเพราะปวดหัวไมเกรนกำเริบอยู่

เลยจำต้องเดินกลับมาที่ห้องโถงใหญ่ของบ้านตามลำพังอีกหน หนนี้หางตาก็ตวัดไปเห็นกล่องนมเปรี้ยวว่างเปล่าที่วางบนโต๊ะเล็กๆ ข้างโซฟา แล้วนึกถึงบทสนทนากับเด็กสาวขึ้นมาก็จำได้ทันที

นี่มันนมยี่ห้อเดียวกับที่เด็กแก้วฝากเขาซื้อเมื่อบ่ายนี่หว่า?

ฉิบหายแล้ว .. แล้วเด็กนั่นมันบดยาลงไปกี่เม็ดก็ไม่รู้ .. เพราะทางโน้นก็หลับเป็นตายอยู่ในห้องไม่ยอมตื่น

ลองยกกล่องเขย่าๆ … เบาหวิว

นี่ดื่มหมดเกลี้ยงกล่องกันเลยเชียวหรอคุณหนูของกู!!

เฮ้อออ … เอาไงดีหว่า? 

คนขับรถหน้าดุตัวใหญ่ยืนลูบหางคิ้วตัวเองอย่างครุ่นคิด

จะยกห้องนอนสวยๆ นั่นลงมาที่นี่ก็คงไม่ได้ .. แต่ถ้าให้ยกร่างบางๆ นี่ขึ้นไปวางไว้จึงน่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

เอาวะ! … ถึงจะโดนด่าก็อาจต้องยอม ดีกว่าปล่อยให้นอนตรงนี้แล้วยุงมาหามเป็นไข้เลือดออก เผลอๆ ทั้งคุณท่านทั้งคุณนายจะมาไล่ทั้งพวกเขาออกกันยกแก๊ง เขา แก้ว ป้าเนียร โทษฐานไม่ดูแล ปล่อยลูกสาวคนเดียวแถมหัวแก้วหัวแหวนเป็นไข้เลือดออกตาย

พอตัดสินใจเช่นนั้นได้ ก็ก้มตัว ช้อนร่างนุ่มอุ่นขึ้นมาแนบอก

เขาค่อนข้างโง่เง่า .. และตัดสินใจผิดมหันต์!!

เพราะพอเมื่อได้ช้อนร่าง สาวน้อยผิวใสที่ร่างกายทั้งอุ่นทั้งนุ่ม ทั้งกลิ่นที่หอมแตะจมูกแรงไว้ในอ้อมแขนแบบนี้ คนตัวสูงใหญ่ที่ต้องกลายมาเป็นชายอัปลักษณ์เนิ่นนานหลายปี ก็เพราะอุบัติเหตุที่เด็กหนุ่มไฮโซฯในวัยคึกคะนองคนหนึ่ง ที่มันทำให้ฝันร้ายของเขาถือกำเนิดขึ้น เพราะในอุบัติเหตุครั้งนั้นมันได้พรากชีวิตน้องชาย ญาติสนิทที่เหลืออยู่ในชีวิตเพียงคนเดียวกับครอบครัวน่ารัก ทั้งลูก ทั้งเมียของน้องชายเขาให้ตกตายไปด้วยพร้อมกันในเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาสูญเสียสายสัมพันธ์ใกล้ชิดทุกสิ่งทุกอย่าง

🦋• คุณหนูของลุงราม : MY SWEET LADY •🦋

บทที่ 3 : ลมหายใจที่สงบเมื่อครู่


ยิ่งคิดยิ่งแค้นกรุ่น

แต่อย่างที่บอก .. เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น เขาเลยต้องกายมาเป็นคนอัปลักษณ์ ผู้หญิงคนไหนเลยไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ ดังนั้นเขาเลยไม่เคยมีใคร นานๆ จึงจะออกไปใช่บริการข้างนอกสักที แต่ไปไม่ได้บ่อย

เขาไม่ชอบสายตาที่ผู้หญิงพวกนั้นมองเขา เพราะมีหลายคนมองเขาด้วยความสมเพช แอบรังเกียจ .. หรือไม่ก็มีบางคนที่สงสารเขา แต่ดูก็รู้ว่ามีหลายหญิงบริการที่ทนฝืนใจมาปรนเปรอให้เขาก็เพราะเงิน

แล้วเขาก็ดันบ้า … ที่ดันมีพลังทางเพศล้นเหลือ ยิ่งเก็บกด .. ยิ่งต้องปลดปล่อย

แล้วตอนนี้นี่ยิ่งจะยัง …..

เขาอุ้มร่างเล็กบอบบางหอมกรุ่น นุ่มนิ่ม หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวพาดบ่าได้ง่ายดายปานคล้ายเธอคือกระสอบนุ่น

ค่อยๆ บิดลูกบิดประตู … 

นึกแล้วเชียวว่าเจ้าของห้องคงจะประมาท ไม่เคยนอนล็อคห้อง

เพราะปกติเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้มาเฉียดใกล้แถวบ้านใหญ่นี้ ยกเว้นต้องซ่อมแซมห้องน้ำ ห้องครัว หรือไม่ก็ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบง่ายๆ

ค่อยๆ วางเจ้าของร่างระหงสมส่วนลงบนเตียงอย่างถนอมเบามือด้วยความรู้สึกที่เร้นลึกอยู่ในใจ .. ก่อนจะหันมองดูรอบตัวอย่างเพ่งพิศ

เขาควรจะก้าวเท้าออกไปให้พ้นจากตรงนี้แล้ว

แต่ …

โปรดติดตามเรื่องนี้ต่อได้ในแบบฉบับ eBook โดยจิ้ม >> ที่นี่ << นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการสนับสนุนผลงานค่ะ

อ่านนิยาย ☘ สุดสวาทไฮโซรสแซบส์!!


{SERIES} • เ จ้ า ส า ว จ อ ม ยั่ ว •
⋆˚. แนะนำตัวละคร .⋆˚

พยัคฆ์ .. คุณอาเสือ

พ่อหม้ายหนุ่มที่หย่าร้างเนื่องจากภรรยามีชู้ ผู้เบื่อหน่ายชีวิตในกรุงฯจึงหันเหตนมาเป็นเจ้าของไร่สับปะรดกว้างใหญ่ที่เงียบสงบ 

อินทิรา .. เอริล

ไฮโซฯสาวผู้อกหัก ช้ำรัก เพราะแฟนฝรั่งดันพลาดพลั้งทำคลิปบนเตียงของเธอหลุดจนกลายเป็นเรื่องราวสุดอื้อฉาว ตกเป็นขี้ปากสังคมแล้วแฟนตัวดีก็กลับหนีหน้าไม่รับผิดชอบ เธอจึงจำต้องหนีข่าวอันอื้ออึงนั่นมากบดานอยู่กับอาของเพื่อนสนิท ที่ไร่อันห่างไกลผู้คนจนเกิดเป็นเรื่องราวรักหวานๆ สุดเร่าร้อน

แนะนำนิยาย

บทที่ 1

มือขาวนวลจากร่างสาวงามที่ผิวพรรณมีน้ำมีนวล จนดูราวกับมันแทบจะเปล่งประกายได้ วางกระเป๋าเดินทางใบย่อมลงบนเตียงนุ่มในห้องนอนรับรองแขก ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่ค่อยจะคุ้นชินกับความเรียบง่ายของบ้านไร่แห่งนี้นักเลย

'อินทิรา' หรือ เอริล ฉาง สาวน้อยในวงสังคมไฮโซไซตี้ ลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง ดีกรีเป็นถึงลูกเจ้าสาวคนเดียวของนักธุรกิจนำเครื่องสำอางเข้าจากต่างประเทศเกรดพรีเมี่ยมจากทุกยี่ห้อชั้นนำต่างๆ ซึ่งตัวหล่อนเองที่พอเรียนจบมาจากต่างประเทศก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นถึงผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์

แต่วันนี้มันมีอันต้องสิ้นสุดลง นับตั้งแต่มีคลิปที่อีริค หนุ่มคนรักที่หล่อนหมายมั่นหนักหนาว่าเขาจะขอแต่งงานในเร็ววันนี้ แต่ทุกอย่างก็มาพังลงเพราะผู้ชายจอมเฮงซวย ซังกะบ๊วย!! ที่มันไม่ได้รักหล่อนจริง ที่ดันทำคลิปแอบถ่ายระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเมามัน โรมรันพันตรู ต่อสู้แซบเวอร์กันอยู่บนเตียงหลุดออกมา จนมันกระฉ่อนไปทั่วทั้งวงการ ไม่ว่าจะวงการธุรกิจ วงสังคมไฮโซฯ หรือแม้แต่กระทั่งเครือญาติเชื้อสายผู้ดี๊ ผู้ดี ทางฝ่ายคุณแม่ของหล่อนก็ออกมาประนามในความผิดพลาดที่เกิดครั้งนี้ว่า มันช่างน่าอับอายขายขี้หน้าขนาดไหน 

ที่พอหล่อนไปปรึกษา ถามหาความรับผิดชอบ ไอ้คนต้นเรื่องมันก็ปากแข็งปฏิเสธ แถมยังจะอ้างขอเลิกก็เพราะหล่อนนั่นละที่ทำให้มันอับอายและชิงทำตัวจางหายไปต่อหน้าต่อตา ก่อนไป ก็ยังจะมาพูดให้เจ็บใจว่ามันคงจะหาเงินมาเลี้ยงดูหล่อนอย่างดี อย่างที่เคยหล่อนเป็นอยู่ เป็นคุณหนูไฮโซฯผู้เอาแต่ใจได้ไม่ไหวหรอก 

โธ่...ไอ้หอกเอ้ย!! แล้วตอนคบกันวันแรกๆ ทำไมไม่เห็นมันจะพูดอย่างนี้เลยล่ะ!!

แรกๆ ที่เกิดเรื่องอินทิราเองก็ตกใจจนตัวชาเมื่อเห็นข่าว ทั้งเพื่อนสาวเพื่อนชายก็เข้ามาปลอบว่าช่างมันเถอะ! อย่าคิดอะไรเยอะ ... 

ใครๆ เขาก็ทำกัน ... 

ใช่สิ! พวกนั้นมันก็พูดได้นิ ในเมื่อข่าวนี้มันเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหล่อนนี่นา มันไม่ใช่ข่าวที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเองนี่หว่า!!

เมื่อหล่อนยังโอดครวญ งอแงเหวี่ยงวีน เมาหัวทิ่มไม่เลิก สงสัยยัยมะเฟือง 'เฟื่องฟ้า' เพื่อนรักสมัยเรียนตั้งแต่มัธยมต้นที่ยังคบกันมานานถึงปัจจุบันยังอดทนไม่ไหว เมื่อเห็นหล่อนเหลวไหล แถมหน้าที่การงานป่นปี้ เพราะเรื่องบัดสีฉาวโฉ่มันมาก ก็ไอ้เจ้าคลิปนั่นมันดังในเมืองไทยไม่พอ ตอนนี้มันพากันไปโชว์หราอยู่บนเว็บต่างประเทศโน้นแล้ว

และที่มันน่าเจ็บใจหลายๆ หน เพราะเมื่อคืนนี้ในผับ หล่อนยังได้ยินผู้ชายปากหมา มันเมาท์กันสนุกปากอยู่ในวงเหล้าเมื่อคืนนี้ว่าแรกที่เห็นในคลิป พวกมันคิดว่าหล่อนเป็นนางเอก AV ระดับ 5 สตาร์ เพราะหน้าตาอินทิราสวย ก็แบบหมวยๆ นี่ละ อีกทั้งผิวที่ขาวผ่องผุดผาดขนาดนั้น แถมลีลายังดูแซบ ร้อนแรงซะจนอยากจะมุดจอไปร่วมวง 

โอ้ย!! แล้วจะไม่ให้หล่อนคลั่งได้อย่างไรล่ะ!!

"งั้น .. เอางี้ดีไหมล่ะเอริล?" เสียงยัยมะเฟืองที่นั่งเท้าคางมองเพื่อนสาวที่ฟุบหน้านัวเนียอยู่กับเคาน์เตอร์บาร์  ภายในคอนโดฯหรูหราที่ผุดอยู่กลางย่านแหล่งธุรกิจ ซึ่งมันใช้เป็นที่อาศัยในระหว่างทำงานของอินทิราเอง หากพอคอมเม้นแสดงความคิดเห็นจบก็โดนเพื่อนซี้ที่ตอนนี้กลายเป็นนารีขี้เมาผงกหน้ามมาโวยวาย

"ดีกะผีอะไรของแกล่ะยะยัยม้าเฟืองเน่า!! นี่แล้วแกคิดว่าอาเสือของแกเขาจะยินดี ยินยอม เต็มใจให้ฉันไปอยู่กะเค้าด้วยหรือไง ฉันทำนาไถไร่กะใครเขาไม่เป็นนะเฟ้ย แกก็รู้ดี" ท้ายประโยคมีเสียงงึมๆ งำๆ จากคนลิ้นไก่อ่อน

"บ้า! ใครเขาจะใช้ให้ไฮโซฯอย่างหล่อนไปแตะต้องงานแบบนั้นกันล่ะยะ ประเดี๋ยว เผือก มัน ในไร่อ้อยของอาเสือจะได้แห่แหนแห้งตายห่าหมดกันพอดี" เพื่อนผู้แสนดีมีอาการส่งค้อนขวับ!!

"ฉันก็แค่แนะนำให้แกไปกบดานซุกหัวทำตัวชิลๆ แบบคนหลบไปพักตากแดด ตากลม ห่มฟ้า ห่มอากาศอะไรแบบเนี้ย ทำเป็นไหม? แล้วแกจะดีดดิ้นทำไม? ชวนให้ไปเที่ยวต่างประเทศก็งอแงไม่อยากไป อยากจะชวนไปทำงานด้วยกันที่ใหม่ แต่สภาพแกอย่างนี้ดูยังไงก็คงยังไม่พร้อม"

อินทิราก็ฟังอยู่นะ แต่ว่าตอนนี้ยังโงหัวตัวเองไม่ขึ้น

"แกด่าฉันช้าๆ หน่อยซิ ฉันจะได้ตามงงให้ทัน" คนเมาบ่น

"เอาจริงๆ นะเอริล" เฟื่องฟ้าทำซุ่มเสียงจริงจัง

"ที่จริงแล้ว ฉันก็อยากให้แกไปเป็นเมียอาเสือเขาโน้นน่ะ แหละ" และด้วยประโยคนี้มันทำเอาคนที่กำลังเมาหัวทิ่มนี่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมาพรวดจนเฟื่องฟ้าตกใจ แอบคิดสงสัยว่าครั้งนี้คงจะโดนเพื่อนรักตบเอาจนคอหักตายแล้วแน่ๆ

แต่…

"อาเสือเขามาบอกกับแกว่าเขาแอบชอบฉันหรือ?"

เฟื่องฟ้าส่ายหน้าดิก อีกครั้งที่เห็นศีรษะสวยๆ ของเพื่อนรัก … เลี้อยลงไปไถลไถเถือกกับเคาน์เตอร์หินอ่อน

"เฮ้อ.. แล้วแกจะมาพูดจา เคาะกะลาให้หมาอย่างฉันมันดีใจเก้อทำไมกันฟร่ะ!"

"อ้าว! .. นี่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าแกก็แอบชอบอาเสือเขาอยู่" ยังคงเท้าคางก้มคุยกับหัวทุยๆ ของเพื่อนเฉ๊ย

"แล้วแกมาสนับสนุนให้ฉันไปอ่อยเขาทำไมล่ะ"

"ฉันอยากได้คนที่คุยกันรู้เรื่อง มากกว่าที่จะได้ยัยป้าบ้าซีรี่ส์เกาหลีอย่างยัยลัดดามาเป็นอาสะใภ้"

"เอ๊า! แกไม่อยากได้ยัยป้านั่น แต่อาเสือเค้าอยากได้เอามานอน 'ยิ้ม' ด้วยกันนิ แล้วนั่นมันก็เกี่ยวพันกับเรื่องบนเตียงของเขา ซึ่งเราไม่มีสิทธิ์หรอกนาเว้ย" ทำรู้ดี

คนรู้ดีที่พูดจบก็กระดกเหล้าเข้าคอ หายวาบไปแล้วอีกแก้ว

แถมคนกระดกแก้วก็รู้สึกเจ็บๆ หวงๆ อย่างไรก็ไม่รู้ ทั้งที่หล่อนกับพยัคฆ์เองก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย ตั้งแต่จบมัธยมแล้วหล่อนก็ไปเรียนต่อ เนื่องจากสมัยก่อนนั้นเวลาปิดเทอมฤดูร้อนในบางปี อินทิรามักจะไปเที่ยวบ้านที่ต่างจังหวัดของเฟื่องฟ้า และเคยเจอกันกับเขาที่มักจะไปเที่ยวหาพี่ชายบ่อยๆ เช่นกัน และในตอนนั้นเอง พยัคฆ์ หรือ อาเสือ ก็ได้แต่งงานมีภรรยาอยู่ก่อนแล้ว 

แต่พอหล่อนไปเรียนต่อยังต่างประเทศได้ไม่นาน ก็ได้ข่าวจากที่เฟื่องฟ้ามาเล่าบ่นว่า เขาหย่ากันแล้วกับกานดาเพราะหล่อนหนีตามชู้ไป จากนั้นพยัคฆ์ก็เลยตัดสินใจ ผันตัวเองไปซื้อที่ทำไร่อยู่ต่างจังหวัด

จบมา อินทิราก็มัวแต่สนุกอยู่กับการทำงานจนได้มาเจอกับอีริค ไอ้เจ้าตัวผู้เฮงซวย ซังกระบ๊วยตัวนั้นนั่นแหละ! ที่ตอนนั้นมันดูมาดดี๊ดี แถมมีอายุไล่ๆ กันกับหล่อน ทั้งคู่จึงได้คุยกันง่ายและเข้ากันได้ไว ประจวบกับที่เจ้าหมอนั่นมันคารมดีซะด้วย อินทิราก็เลยหลงมันหัวปักหัวป่ำ จนหลงลืมอาเสือของยัยเฟื่องฟ้าที่อยู่กันคนละสังคมไปแล้วซะสนิท

"แล้วแกจะให้ฉันไปอ่อยเขา เกิดไม่สำเร็จฉันก็เสร็จ อาเสือของแกไปฟรีๆ น่ะสิ"

"งั้นแกก็ต้องพยายามทำให้มันสำเร็จสิ" 

ยังเท้าคางคุยกับเพื่อน อย่างกับทั้งสองเห็นว่านี้เป็นเรื่องที่สาวๆ มาปรึกษาเลือกสีที่จะใช้ทาเล็บกันซะอย่างนั้น

"ก็กลัวมันไม่สำเร็จน่ะสิยะ ไม่เคยอ่อยใครซะด้วยสิ" ปากปฏิเสธ แต่เงยหน้าขึ้นมาทำตาเป็นประกายเหมือนคนมีเกมให้เล่นใหม่ๆ ที่ท่าทางน่าสนุก

"ย่ะ!!" เฟื่องฟ้าจิกตาใส่ 

เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วล่ะว่า ครั้งต่อไปหล่อนจะเจอะเจอยัยเพื่อนขาเหวี่ยงคนนี้ได้ที่ไหน

เส้นแนวนอน

แนะนำนิยาย

มาถึงที่นี่ ... ผิดหวังนิดหน่อยเพราะตัวเจ้าของบ้านไม่ยักจะอยู่รอต้อนรับ พอจอดรถแลมโบกี่นี่สีเปรี้ยวจี๊ดไว้หน้าบ้าน เด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับ โดยบอกว่า 'คุณเสือไม่อยู่' .. ไปประชุมที่ในเมืองเกี่ยวกับพันธ์ุพืชที่เขาทำธุรกิจอยู่นี่ล่ะ แต่เขาได้สั่งคนจัดเตรียมห้องเอาไว้ให้แล้ว บอกว่าให้ทำตัวตามสบาย .. คงค่ำๆ นั่นละถึงจะกลับ

แต่นี่ก็เกินสามทุ่มกว่าไปแล้วเขาก็ยังไม่กลับเข้ามาสักที อินทิราก็โทรศัพท์คุยเมาท์กระจายอยู่กับเฟื่องฟ้า จนรู้สึกง่วงงุน รอทักทายเขาไม่ไหว เนื่องจากขับรถมาไกลมากกว่าจะมาถึงที่นี่จึงรู้สึกเพลียมาก อยากพักผ่อนนอนเร็วและขี้เกียจจะรอเขาแล้ว

หลับไปนานเท่าไรไม่รู้ก็ต้องตื่นขึ้นกลางดึก คงเป็นเพราะความแปลกที่แปลกทาง ลุกขึ้นมาตั้งใจจะหาน้ำมาดื่ม ที่นี่ไม่มีมินิบาร์ในห้องเหมือนที่บ้านหล่อนจึงต้องเดินออกมาข้างนอก

จังหวะเดินผ่านห้องห้องใหญ่ที่เดาได้ว่า ห้องนี้คงเป็นห้องของเจ้าของบ้านเองนั่นแหละ ก็ดั๊น..ได้ยินเสียงประหลาดแต่คุ้นหูดังขึ้น 

ที่ว่าคุ้นหูดี ก็เพราะรู้ดีน่ะสิว่า .. คนข้างในห้องนี้คงกำลังมีกิจกรรมทำอะไรกันอยู่แน่ๆ 

แหมมม...เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดๆ ขนาดนี้

'ดูท่าทางก็ไม่ค่อยอดไม่ค่อยอยากอะไรเลยนะนี่'

เจ้าของความคิดเดินส่ายหัวโคลงเคลง 

โธ่!! เอาแล้วไงยัยมะเฟืองเน่าเอ้ย! แล้วอย่างนี้ฉันจะมีวาสนาได้มาเป็นอาสะใภ้แกไหมล่ะนี่?

โยกโล้สำเภาฝ่ามรสุมกันปั่บๆๆๆๆ สนั่นลั่นบ้านซะขนาดนี้

แล้วอาเสือเขากลับมาตั้งแต่เมื่อไรกันหว่า ทำไมจึงไม่ได้ยินเสียงรถเขาแล่นเข้ามาเลยล่ะ?

สงสัยหล่อนคงหลับสนิทไปเลยละสิเมื่อชั่วโมงแรกนี่ ถึงไม่ได้ยินว่าเขากลับเข้ามาตอนไหน เจ้าของบ้านคงอาจเห็นว่าแขกหลับ หรือไม่ บางทีเขาอาจหิ้วยัยลัดดามานอน 'ยิ้ม' ด้วยกันคืนนี้ เลยไม่ได้คิดสนใจแขกที่มาอาศัยร่วมชายคาชั่วคราวอย่างหล่อนคนนี้สักเท่าไร

เดินกลับมาจะเข้าห้องก็ … อ้าว!! ไม่ใช่ยัยลัดดาแฮะ! 

แต่เป็นแม่เด็กสาวคนเมื่อบ่าย ที่ออกมารับใช้หล่อนอยู่เมื่อช่วงกลางวันนี้นั่นเอง 

เฮ๊อะ!! เจ้าชู้ร้ายไม่เบาเลยนี่นา...อาเสือนี่!!

เด็กสาวนั่นไม่ทันได้เห็นหล่อน คงจะลืมดูต้นทางเพราะคงเคยชินกับการที่ไม่ค่อยมีใครมาเป็นแขกพักที่นี่บ่อยนักกระมัง

พอเดินถึงห้องก็ปิดประตูเซ็งๆ 

เห็นทีว่าจะต้องหอบเสื้อผ้ากลับกรุงเทพฯ เร็วกว่าที่ตั้งใจไว้แล้วซะละมัง?

เดินไปค้นก้นกระเป๋ากุ๊กๆ กิ๊กๆ คว้าเอาเจ้าเพื่อนยากออกมา 

ก็ไม่ใช่อะไร ตอนที่หล่อนเดินผ่านไปได้ยินเสียงที่หน้าห้องเขา แทนที่จะผ่านเลยไปไวๆ แต่หล่อนดันเลือกที่จะหยุดฟังซะงั้นสิ! 

เสียงกระซิบกระซาบแกมหัวเราะคิกคักกับเสียงคราง 'อือ..อ๊ะ .. อุ๊ยๆ' เป็นจังหวะระรัวที่ดังมาไม่ขาดปาก มันทำให้อารมณ์ที่อดอยากมาตั้งแต่เลิกรากันกับอีริคก็เริ่มชักจะกระเจิดกระเจิง เพราะที่ผ่านๆ มา หล่อนก็ไม่เคยมีกิจกรรมแบบนั้นกับใครอีกหรอก นอกเสียจากจะช่วยเหลือตัวเองบ้างเป็นบางครั้ง โดยการพึ่งพาเจ้าวัสดุมหัศจรรย์ สีส้มใสแปร๋นๆ ที่นิ่งอยู่ในมือหล่อนขณะนี้นี่แหละ

ที่ต้องพึ่งพาเจ้านี่ เพราะอินทิราชอบการมีเซ็กซ์ก็จริง แต่ก็ไม่ใช่คนมั่วไปทั่ว ไม่นิยมไปส่ำส่อนกับใครที่ไหน กลัวติดโรคติดภัยร้ายแรงมาเป็นของแถม ไม่คิดจะเลี้ยงเด็กไว้ใช้งาน อีกทั้งยังไม่ชอบไปเสนอหน้าตามบาร์โฮสต์ หรือจะไปวันไนท์แสตนด์แบบที่เพื่อนๆ ในวงไฮฯหลายคนนิยมทำกันสักเท่าไร อีกทั้งของเล่นพวกนี้มันปลอดภัยดี เพราะไม่มีวันทำหล่อนท้องไม่มีพ่อ ไม่ต้องระแวงว่าจะติดโรคใครมาด้วย แถมมันยังไม่ปากมากฟ้องใคร ไม่ปากหมาเม้าท์เอาหล่อนไปนินทาลับหลัง ไม่ดักฟัง ไม่แอบถ่ายคลิปจนหลุดให้อับอายได้อีก จากบทเรียนที่ได้รับจึงทำให้ระมัดระวังตัวเองขนาดนี้ และนี่มันจึงเป็นหนึ่งในเหตุผลว่า ทำไมหล่อนจึงได้เฮิร์ทหนักขนาดนั้น เมื่อได้ยินคำวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับไอ้เรื่องบนเตียงจากชมรมคนปากหมา ที่บังเอิญเดินผ่านแล้วได้ยินเข้าหู

ก็อยากจะช่างหัวมันอยู่หรอกนะ!! แต่คนที่มันแคร์ขี้ปาก … อย่างไรมันก็ย่อมต้องแคร์แบบห้ามไม่ได้หรอก

สุดท้าย ก็เลยต้องพึ่งเจ้าส้มใสเพื่อนยากให้มาเป็นเครื่องช่วยเพื่อบรรเทาความเหงาอยู่นี่

จริงๆ ครั้งนี้มันยังไม่ครบสูตร ขาดตุ๊กตาหมีสีขาวตัวยักษ์ที่ยัยมะเฟืองเพื่อนผู้รู้ใจซื้อให้อีกตัวนะ อินทิราติดจะเป็นคนค่อนข้างคิคุอาโนเนะนิดๆ หล่อนเคยขอให้อีริคแต่งคอสเพลย์เป็นเจ้าตุกตาหมีสีน้ำตาลระหว่างที่ทำกิจกรรมกันด้วยนะ (อ๊ะ … ความลับถูกเปิดเผย)

ดังนั้นในวันนี้ เจ้าหมีขาวตัวนั้นมันจึงทำหน้าที่คล้ายกับตุ๊กตายางของพวกผู้ชายไปในตัว วิธีที่หล่อนจะนำเอาใช้ก็แค่เอาเจ้าส้มใสไปผูกเอวตุ๊กตาหรือไปวางไว้บนตัวมัน จากนั้นแล้วก็แค่ขี่หรือขย่ม กดปุ่ม ก็ดูจะถือว่าเป็นการผจญภัยบนเตียงนอนอีกรูปแบบหนึ่งได้ไม่เลวนักหรอก แต่มาอยู่ที่นี่ มันคงดูไม่ดีถ้าหากจะหอบเอาเจ้าหมียักษ์สีขาวจั๊วตัวนั้นมาด้วยใช่ป่ะ ไม่งั้น อาเสือก็คงต้องสงสัยว่านี่หล่อนไม่สบายเป็นไข้บ้าอะไรไปหรือเปล่า

แต่ตอนนี้เจ้าของบ้านทำหล่อนทนจะไม่ไหวแล้วล่ะ 

งั้น .. งานนี้ หล่อนจะขอข่มขืนหมอนข้างของเขาแทนไปก่อนก็แล้วกันนะ!!

ถือเป็นการแก้แค้น!!!!!!!

เส้นแนวนอน

แนะนำนิยาย

เพราะมัวแต่เมามันอยู่บนหมอนข้าง ที่จินตนาการว่ากำลังมีกิจกรรมร่วมกันกับชายผู้เป็นเจ้าของของมันอยู่จนไม่ทันได้สนใจเสียงแกรกกรากที่ดังอยู่หน้าห้อง

อินทิราไม่รู้เลยจริงๆ ว่าผู้ชายคนที่ตนกำลังจินตการถึง ซึ่งหล่อนคิดว่าเขาคงจะเพลีย หลับไปแล้ว หลังจากเสร็จศึกไปแล้วกับเด็กสาวนั้น จึงไม่ทันคาดคิดว่าพยัคฆ์ขณะนั้นได้ลุกเดินออกมาจะหาน้ำดื่มเช่นกัน จึงทันสังเกตเห็นหล่อนที่เดินผ่านหน้าห้องเขาไปพอดี ก็ให้เกิดความสงสัยว่าแม่สาวน้อยคนนี้ จะแอบเห็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเหมาะสมนี้ของเขาหรือเปล่า 

อะไรบางอย่างฉุดดึงเท้าเขาให้ก้าวตามร่างเล็กๆ บาง แต่เวลาเดิน ... สะโพกกลมกลึงใต้ชุดนอนบางใสกลับโบกไหวๆ ราวเชิญชวน 

โธ่!! .. ไอ้บ้าพยัคฆ์เอ้ย! 

นั่นน่ะ .. เด็กรุ่นหลานเชียวนะเฟ้ย!!

มีดีกรีเป็นถึงเพื่อนรักของหลานสาว ที่ยัยมะเฟืองสู้อุตส่าห์ไว้ใจฝากเพื่อนมาให้เขาดูแล แต่แกยังจะมาทำท่าน้ำลายสอเดินตามต้อยๆ อย่างนี้ได้อย่างไรกันวะนี่!!

สมภารน่ะเขาไม่กินไก่วัดกันนะ แถมไก่วัดตัวนี้ก็ดันเป็นไก่ระดับ VIP ขึ้นห้างไฮคลาสซะด้วยสิเฮ้ย...ไอ้เสือเว้ย!!

แต่ถึงแม้จะด่าตัวเองอย่างนั้น พยัคฆ์ก็ยังมิอาจจะห้ามเท้าตัวเองจนได้มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนสำหรับแขก 

กำลังหันซ้ายหันขวา ลังเลอยู่ว่าจะเคาะห้องทักทายหล่อนดีหรือไม่ … ก็ดันได้ยินเสียงน่าสงสัยข้างในที่เคลื่อนไหวกุกกักๆ

ยังตัดสินใจได้อยู่นะว่า เอาไว้ทักทายกันพรุ่งนี้น่าจะเหมาะสมดีกว่า แต่เจ้าเสียงกุกกักนี่มันช่างดึงความสนใจอะไรในใจเขาอยู่บ้างนิดหน่อย เลยลองบิดลูกบิดประตูดูเบาๆ 

อ้าว? ยัยเด็กหุ่นเซี๊ยะนี่ช่างเลิ่นเล่อชะมัด!!

จะนอนแต่กลับไม่ยักจะล๊อคห้องแฮะ

แต่เดี๋ยว เพื่อความไม่น่ากระโตกกระตาก จอแง้มแอบมอง ผ่านขอบประตูนี้ก่อนดีกว่า เอาเป็นว่าก่อนหน้า พยัคฆ์นั้นไม่ได้สนใจติดตามข่าวคราวอะไรเด็กคนนี้นักหรอก จำได้แค่ว่าสมัยวัยรุ่นๆ เอริลหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มดีและมีผิวสวย แต่ตอนนั้นหุ่นของหล่อนยังดูเก้งก้างอย่างกับนกกระยางนี่นะ

สมัยนั้นก็มองแค่ว่าเอริลเป็นแค่เด็กน่ารัก และเขาเองที่เป็นผู้ที่มีรสนิยมชอบสาวหุ่นอวบๆ เต็มไม้เต็มมือ จึงไม่คิดสนใจอะไรในตอนที่ยัยมะเฟืองเล่าว่าเอริลมีเรื่องอื้อฉาว เป็นข่าวกับแฟนหนุ่มฝรั่งจนถึงขั้นเลิกกัน แถมยังตกงานด้วย ยัยจุ้นจึงได้เสนอให้เพื่อนหลบมารักษาแผลใจในที่สงบๆ สักพัก อีกทั้งหลานสาวก็ยังเล่าเรื่องข่าวฉาวๆ ให้เขาฟังแบบไม่ได้ปิดบัง เพราะรู้ดีว่าพยัคฆ์ไม่ใช่ผู้ชายหัวโบราณอะไร ซึ่งเขาเองก็ค่อนข้างจะเปิดกว้างในเรื่องนี้มากซะด้วย ตราบใดที่เรื่องเหล่านั้นมันยังไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมแบบพรากลูกแย่งเมียใครเขามา หรือมีการข่มแหงใจกัน ซึ่งเขาไม่มีวันทำหรือสนับสนุน 

อีกอย่าง … เรื่องการถูกทรยศหักหลังจากคนที่ตนรักและไว้ใจ มันเป็นเรื่องที่บาดเจ็บสาหัสที่เขาเข้าใจดีอย่างที่เขาก็เคยเจอมากับตัว จึงค่อนข้างเข้าใจในความรู้สึกของเอริลดีที่เสียทั้งตัว ทั้งหัวใจและชื่อเสียง แถมยังเสียความมั่นใจพ่วงท้ายมาให้อีก ดังนั้นเขาจึงเต็มใจให้ที่จะให้แหล่งพักพิงเพื่อรักษาบาดแผลเหล่านั้นแก่หล่อน

แต่ไม่ทันได้คาดคิดสักนิดนี่สิว่า จากเด็กสาวหุ่นนกกระยาง จะกลายร่างมาเป็นสาวน้อยหุ่นเซี้ยะ น่าเจี๊ยะ น่าล่อ น่าฟัดสุดแรงเหวี่ยงซะขนาดนี้!! 

นี่แค่มองเห็นแต่ข้างหลังยังไม่ทันได้เห็นหน้าชัดๆ เลยนะนี่

แต่ว่า 'ไอ้เรื่องพรรณอย่างว่า' เวลาให้มันอยากขึ้นมา เรื่องหน้าตาเขาไม่เคยเกี่ยงกันหรอกนะ 

แต่สำหรับเขาน่ะ .. ถ้าได้สวยๆ มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีต่อใจมิใช่น้อยเลยเชียว

ยัยมะเฟืองก็เคยส่งรูปมาให้ดูนี่หว่า แต่ทว่ามันมักเป็นช่วงเวลาที่เขายุ่งกับงานมากๆ ไม่มีเวลาเล่นโซเชียลมากนัก จึงลืมดูลืมสนใจและไม่ติดใจเท่าไรก็เลยไม่เคยเปิดอะไรดูย้อนหลัง

แล้วไอ้ที่ตอนแรกสงสัยว่าเสียงกุกกักนั่นมันคืออะไร 

ไม่ใช่หรอก 

เขากลัวว่าเผื่อเด็กคนนั้นเจอวิกฤตจนอาจมีภาวะซึมเซา จะคิดสั้น หรือเผื่อหล่อนเกิดอุบัติเหตุ หรือไม่สบาย จะได้เข้าไปช่วยเหลือทัน ที่ต้องมาลอบแอบมองก่อนเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว มันคงไม่เหมาะหากเขาจะบุกเข้าไปคุยกับเด็กสาว ที่พูดได้ไม่เต็มปากว่ารู้จักสนิทสนมกันดีอยู่ก่อน

ยิ่งในยามดึกยามวิกาล ขืนทะเล่อทะล่าเดินเข้าไป

ดีไม่ดี .... เดี๋ยวไก่จะตื่น .... 

เฮ้ย! ไม่ใช่เฟ้ย! .... เดี๋ยวหล่อนจะตื่นตกใจ!!

และถึงแม้พยัคฆ์จะขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิง แต่เขาก็เป็นคนที่มีมารยาทในการกินอยู่นะ 

ไม่ได้โหดได้หื่น ตะกละตะกลามไร้พิธีรีตองนักหรอก

แอบมองหญิงสาว ที่เดินไปค้นกระเป๋าหยิบเอาเจ้าแท่งสีส้มใสแปร๋นออกมาแล้วหนุ่มใหญ่ก็ยืนมอง .. ทำตาปริบๆ 

เฮ้ย!! คุ้นๆ วะ! … ไอ้เจ้าคฆามหัศจรรย์หรรษานั่นน่ะ!!

มีแสงวิบวับๆ เกิดขึ้นในแววตาใต้กรอบกว้าง ที่เริ่มจะมีร่องรอยย่นตรงบริเวณหางตาคมเข้มของเขาอยู่นิดๆ

เกือบจะเผลอร้องว้าวออกมาแล้ว .. ยังดีที่รีบหุบปากตัวเองเอาไว้ได้ทัน

งั้นอย่างนี้ .. ที่เขาแอบสงสัยว่ายัยน่าเจี๊ยะนี่คงบังเอิญเดินออกมาทันได้ยินเขากับเด็กราตรีที่กำลังโรมรัน เมามันกันอยู่เมื่อครู่นี้แน่ๆ .. และก็แปลว่าหล่อนคงมายืนฟัง เพราะราตรีเป็นเด็กที่ชอบส่งเสียงดังซะด้วยสิ

เอริลก็คงจะเกิดอารมณ์ขึ้นมาบ้าง ก็เห็นว่าเพิ่งเลิกกับแฟนฝรั่งมาได้สักเดือนกว่าๆ ได้กระมังนี่นา หล่อนเองก็ขึ้นชื่อว่ายังอยู่ในช่วงวัยเจริญเพศสัมพันธ์ ดังนั้นจึงย่อมเป็นธรรมดาที่ยังคงจะมีความต้องการสูงมาก 

ยิ่งคนเคยๆ ลิ้มลองรสชาติมาแล้วแบบนั้น คงติดใจในเพศรสอยู่เป็นธรรมดาด้วยกระมัง?

พยัคฆ์แอบมองอินทิราช่วยเหลือตัวเองไป น้องชายของเขาเองก็ชักแข็งโด่ ทั้งที่เพิ่งจะกินอิ่มไปเมื่อครู่นี่แท้ๆ

ก็....โอ้โห.....แม่คุณเอ๋ย!! (ปาดน้ำลาย)

หล่อนเริ่มจากถอดชุดนอนซีทรูสั้นจู๋ ผ่านทางหัวทุยสวย ๆ 

ผมยาวหนาสยายสะบัดไหวจนดูน่าขยุ้ม กระชากให้หน้าหงายแล้วก็ ...

โธ่! ไอ้เสือ!! ประเดี๋ยวแกก็ได้ทิ้งหลักฐานนักถ้ำมองกองกระฉูดอยู่ตรงนี้หรอก!!

แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ ที่จินตนาการเห็นปากจิ้มลิ้มอ้างับของเขาได้ไม่หมดจนต้องใช้วิธีเล็มๆ เอา

ซู้ดดดดด … อ้าาาาาห์!! 

โอ้ย!! ไม่ไหวล้าววววว!! 

ขืนมามัวแต่ยืนส่องหล่อนที่ข่มขืนหมอนข้างของเขาอยู่ตรงนี้อีกเพียงแค่นาทีเดียว มีหวัง เขาคงต้องได้ขายขี้หน้ายัยเด็กนี้แน่!!

งั้นก็ ..... 

ทิชชู่จ๋า .... รอป๋าด้วย!!!

เส้นแนวนอน

แนะนำนิยาย

เช้าตรู่ที่นี่นับว่าเป็นสถานที่แรกจริงๆ ที่อินทิราจะยอมตื่นตาขึ้นมาทักทายสายหมอกที่กำลังอ้อยอิ่งโรยตัวลงมาเป็นสาย 

อืมมมมม.... มันก็สวยดีนะ … แต่ว่า ...

รีบผุดลุกขึ้นมานั่ง 

บ้าจริง!! นี่หล่อนหลับไปทั้งๆ ที่...!! 

โอ้ย..น่าอายชะมัด .. แต่ว่า .... ช่างเถอะ!

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกซักหน่อยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพียงแต่ที่นี่มันไม่ใช่ในห้องส่วนตัวของที่บ้าน หรือที่คอนโดฯของหล่อนเท่านั้นเอง

ก็ดีนะ เปลี่ยนสถานที่ทำการซะบ้างมันก็รู้สึกตื่นเต้นและได้อารมณ์ดีไม่ใช่น้อยเลยแฮะ!!

ขนาดคิดอย่างนี้ แต่สายตาก็ยังจะไม่วายตวัดไปมองประตูโดยสัญชาตญาณแบบแปลกๆ

มันก็ปิดสนิทดีนี่นา 

ไม่เอาน่า .. หล่อนคงคิดมากเพราะแปลกที่หรือเปล่าเถอะ?

อาบน้ำแต่งตัว เดินเลยออกมา เจอพยัคฆ์ที่นั่งไขว้ห้างอ่านข่าวสารผ่านทางแท็บเล็ท กลิ่นกาแฟ..หอมกรุ่นโชยมาจากถ้วยที่เขาถือ

เจ้าของบ้านเงยหน้าขึ้นมามองหน้าหล่อนแล้ว ชะงักไปนิดหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มๆ

โอ้ยตาย! หัวใจหล่อนมันจะละลาย .. กลายเป็นสายรุ้ง..ฟรุ้งฟริ้ง!! ... 

ก็เพราะเจ้าของร่างกล้ามบึกจนเสื้อตึงเปรี๊ยะ ผิวสีคร้ามเข้ม แลดูแล้วก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรูปภาพดิจิตอล ที่เฟื่องฟ้าแชร์ส่งมาให้ดูนักหรอก!! 

จะผิดก็แต่ตัวตนจริงๆ ของอาเสือทำไมพลัง 'เซ็กอะพีล' ของเขามันจึงช่างรุนแรง ถล่มทำร้าย และทลายกำแพงหัวใจได้ง่ายดายขนาดนี้!!

โอ้ยตายล่ะ!! นี่เขาได้เปิดรับสมัคร .. เมียแต่ง เมียเก็บ เมียน้อย อีหนู นางสนม นางบำเรอ หรืออะไรคล้าย ๆ งี้บ้างไหม? ตอนนี้หล่อนอยู่ว่างๆ พอดีจะได้รีบรี่พุ่งมาสมัคร!

วัยที่เพิ่มมากจากหนุ่มวัยกลางมาสู่หนุ่มวัยผู้ใหญ่ 

วัน เดือน ปีที่ผ่านไป มันกลับเพิ่มความแข็งแกร่งสมชายชาตรีให้เขามีเพิ่มมากขึ้น 

โธ่! หล่อนไม่น่าไปหลงคารมไอ้ฝรั่งตัวซีดราวจิ้งจกปีนผนังโรงพยาบาลคนนั้นมาก่อนเลยนะนี่!!

เดินขาจะขวิดเข้าไปใกล้ รู้สึกขัดเขินกับสายตาที่มองเรียวขาวยาวสวย ที่พ้นชายขากางเกงสั้นจุ๊ดจู๋ของตนนิดหน่อย

เช้านี้หล่อนแต่งตัวด้วยชุดกางเกงสีขาวขาสั้นจุ๊ด แถมพอดีตัวเปรี๊ยะ กับสวมเสื้อยืดเอวลอยสายเดี่ยว สีเดียวกับกางเกงมาอวดไหล่ อวดสะดือให้เห็นวับๆ แวมๆ ซึ่งมันก็เป็นแค่ชุดอยู่บ้านง่ายๆ ที่หล่อนชอบใส่ประจำ

ก็ออกจะเป็นชุดสไตล์เอ็กซ์ๆ เซ็กซี่ๆ ดีไซน์แซบส์!!

"สวัสดีตอนเช้าค่ะอาเสือ" เป็นฝ่ายทักทายเขาก่อน

"สวัสดี .. เป็นไงบ้างครับ เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม?" 

เขาถามขึ้นมาอีกยิ้มๆ 

"ค่ะ ...สบายดี... มากๆ" ต่อท้ายตะกุกตะกัก

เขาผายปลายมือชี้ไปที่โต๊ะอาหารเช้า 

"อาสั่งอเมริกันเบรคฟาสต์เตรียมไว้ให้นะ ยังไม่ค่อยรู้น่ะว่าชอบทานอะไร หรือเอริลอยากทานอะไรเป็นพิเศษ ก็สั่งผ่านราตรีเด็กสาวคนเมื่อวานนี้ให้ไปบอกแม่ครัวได้เลย อยู่ที่นี่ได้ตามสบายนะ คิดซะว่ามันเป็นบ้านเอริลอีกหลังก็แล้วกัน"

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย จนอินทิราชักจะโหวงเหวงในใจว่า … 

ว้า!! สงสัยอาเสือจะไม่สนใจหล่อนเอาซะจริงๆ แหะ 

ขนาดอุตส่าห์เลือกชุดมายั่วเยอะซะขนาดนี้เขายังจะทำท่านิ่งเป็นดาบสผู้เคร่งในศีลในธรรมเฉยเลย!!

"วันนี้อาเสือต้องออกไปทำงานไหมคะ?"

ชวนคุยในขณะรินกาแฟให้ตัวเอง ปากคาบขนมปังปิ้งที่ทาแยมบลูเบอรี่ไว้ แล้วเดินมาทิ้งร่างลงนั่งใกล้ๆ เขา .. กะระยะให้น้ำหอมกลิ่นโปรดโชยกรุ่นๆ ไปเรียกร้องความสนใจ

พยัคฆ์ละจากแท็บเล็ท เปลี่ยนอิริยาบทมาเป็นเท้ากำปั้นไว้วางคางบุ๋ม เอียงคอมองดูเด็กสาวรุ่นหลานก้มวางถ้วยกาแฟ ตาเป็นประกายยิบๆ เมื่อเห็นเนินอกอวบขาวที่โผล่พ้นคอเสื้อคว้านกว้างมาล่อลวงดึงดูดสายตา

"ว่ะ .. ว่าไงคะ?" 

ชักออกอาการเขินจากสายตาของเขาแล้ว

'โธ่... ยัยมะเฟืองเน่าเอ๋ย หล่อนตั้งใจส่งให้ฉันมายั่วอาหนุ่มให้หลงเสน่ห์เพื่อน แต่ดูซิ!! ดูเหมือนว่าฉันต่างหากล่ะที่กำลังตกหลุ่มเสน่ห์อาเสือซะหัวทิ่มดิ่งผสุธาเลยเท๊อ!'

"ทำครับ ทุกวันเราจะมีประชุมกับลูกน้องตอนเช้ากัน ซึ่งก็คือการบรี๊ฟก่อนเริ่มงานทั่วๆ ไปเหมือนกับทุกๆ ที่นั่นแหละครับ"

พยัคฆ์ลุกขึ้นยืน ยืดตัวเต็มความสูง 

อินทิราสายตาละห้อย รู้ท่าว่าเขากำลังจะออกไปทำงานทำการของเขาแล้วล่ะ

"เรื่องเที่ยว เดี๋ยวรออาเคลียร์งานสักพัก สักสองสามวัน อาจะอาสาพาไปเอง .... รอหน่อยได้ไหม?" 

ก้มตัววางแขนคร่อมเก้าอี้ที่หล่อนนั่ง แถมยื่นหน้าลงมาถามใกล้ๆ หัวใจอินทิราแทบตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม แอบกลืนน้ำลายเอือกเบ่อเร่อเลย 

ฟังเขาพูดคำว่า 'รอหน่อยได้ไหม' เหมือนมีความนัยแปลกๆ เลยนี่สิ?

แล้วก็....โธ่! 

นี่!! ถ้าหากตอนนี้เขามีสถานะอย่างที่อีริคเคยเป็นมาก่อนนะ หล่อนจะดึงหน้าเขาลงมาจูบให้หายใจหายคอไม่ออก ตายไปเลย!! 

แล้วนี่ก็พิเศษเลยนะไอ้ความรู้สึกนี้ เพราะปกติหล่อนไม่เคยรู้สึกว่าอยากทำแบบนี้กับใครมาก่อน แม้แต่กับอีริค ซึ่งมันก็มีล่ะที่เคยจูบกัน ก็คนเป็นแฟนกันนิ แต่หล่อนก็แค่จูบ ไม่ได้นึกพิศวาสแบบคุกรุ่นและรุนแรงมากๆ แบบนี้มาก่อนเลย

ตาโตๆ พยักหน้าให้เขาเร็วๆ ลืมไปด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้นี้เขาถามอะไรหล่อนกันหว่า?

พยัคฆ์ยิ้มหล่อก่อนจะหยิบหมวก ก้าวออกไปทำงาน

เขาออกจากบ้านไปทุกเช้า และกลับเข้ามาเย็นย่ำแทบทุกวันตั้งแต่หล่อนมาอยู่ที่นี่ .. แต่อีกสามสี่วันต่อมา เขาก็เจียดเวลามาทำตามที่ได้รับปากว่าจะพาหล่อนไปเที่ยวชมตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อันขึ้นชื่อของจังหวัด

ผ่านมาสองสัปดาห์ เขาก็พาหล่อนเที่ยวเกือบครบทุกที่ในจังหวัดแล้วนี่นะ 

อาเสือก็ยังเป็นคุณอาที่อบอุ่น น่ารัก เหมือนเมื่อตอนสมัยหล่อนยังเด็กๆ นั่นแหละ แม้บางทีจะติดจะดุๆ ไปบ้าง แต่อินทิราก็ไม่ค่อยได้ติดใจ

แต่ที่มันตะหงิดๆ ก็ตรงที่บางทีเขาก็ทำท่าเหมือนจะจีบหล่อนอยู่นะ ... แต่บางทีก็ทำเป็นนิ่งเฉยเย็นชาซะงั้น!!

ส่วนหล่อนเองก็ขยันแต่งตัวยั่วยวนเขาสุดฤทธิ์

แต่ผลสุดท้ายก็ยังจะเห็นแม่เด็กราตรีเดินตัวปลิว มุดเข้าห้อง เข้าหาเขากลางดึกไปต่อหน้าต่อตาอยู่ดี

หรือว่าหล่อนอาจจะไม่ใช่เสป็คของเขาหว่า?

อืม สงสัยจะใช่ เพราะผู้หญิงของเขาที่หล่อนสังเกตล้วนแล้วแต่ดูเป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยพูดไม่ค่อยเถียงดีนะ

แต่งตัวก็เรียบร้อยมิดชิด ผิดกับหล่อนซะแทบจะทุกอย่างเลยเชียว

ยิ่งโดยเฉพาะกับลัดดา 'ยัยป้า' คนที่เฟื่องฟ้าไม่ค่อยจะชอบขี้หน้าน่ะ แต่งตัวอย่างกะยัยป้าจอมเชย หรืออาจเป็นเพราะหล่อนเองก็ไม่ชอบยัยนั่นนะ ยัยผู้หญิงหน้าไหว้หลังหลอกคนนั้นน่ะ

ต่อหน้าอาเสือล่ะทำพูดจาดีเชียวละ แต่พอลับหลังก็พูดจากระแนะกระแหนหล่อน จนหล่อนทนไม่ไหวเหวี่ยงวีนออกไป อาเสือเองก็ดูเหมือนจะไม่พอใจในนิสัยขี้เหวี่ยง ขี้วีน เอาแต่ใจของหล่อนนัก

อย่างวันนี้นั่นไงละ ที่เขาไม่ยอมพูดยอมจากับหล่อนเลยทั้งวัน ซึ่งปกติเขาจะอยู่รอหล่อนตื่นแล้วอยู่กินมื้อเช้าด้วยกัน พูดจาหยอก หยอด แหย่หล่อนนิดหน่อยก่อน แล้วถึงจะค่อยออกไปทำงานในไร่ บางทีก็กลับเข้ามาทานมื้อกลางวันด้วยกันกับหล่อนด้วยนะ .... อันนี้ปลื้มมากจนหลงเพลินไปเพราะแลๆ แล้วบางทีอินทิราก็ยังเผลอคิดไม่ว่า เขากับหล่อนนี่เหมือนเป็นคู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันมาใหม่ๆ เสียด้วยซ้ำ .. จนขนาดวันก่อนหล่อนยังกล้าหาญแกล้งพูดใส่เขาว่า

"วันนี้อาเสือรีบกลับบ้านมาไวๆ นะคะ เอริลคิดถึง" 

เขาก็ทำท่าจุ๊บปาก ขยี้ศีรษะหล่อนเล่น ขยิบตา แล้วกระซิบชิดหูให้ได้ยินกันอยู่แค่สองคนเบาๆ

" … " กระซิบวาจาที่ทำเอาเธอหน้าร้อนผะผ่าว

"ห๊ะ!! อาเสืออะ ทะลึ่ง!!!" หน้าแดงแปร๊ดดดดดดด

แต่ก็ยังทันเห็นเขาแกล้งทำเสียงจุ๊บปาก 'มั๊วะ' แต่ไม่แตะต้องอะไรหล่อนเลยสักนิดเดียว ผลคือตกสายๆ อินทิราเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วนึกสนุกพิลึกพิลั่นอะไรขึ้นมาได้ เธอปลดเปลื้องผ้านั่งไขว่ห้างยั่วยวนเซ็กซี่ขั้นสุด ก่อนใช้มือถือถ่ายรูปแล้วก็ส่งภาพนั้นเข้าเครื่องเขา 

"ชิ! .. ทำมากระซิบท้า คิดว่าเอริลไม่กล้าหรอ!"

ได้ผลนะ!! เขาก็รีบกลับมาจริงๆ นั่นละ!!

แต่อิตาดาบสผู้ทรงศีล.....นี่ก็เคร่งและอดทนมาก  

กลับมากินข้าวกลางวันด้วยกันกับหล่อน แล้วก็หายไปเข้าห้องเงียบกับยัยราตรีเฉยเลย!! 

โอ้ย! อยากจะบ้า!! 

อินทิราก็รู้ล่ะว่าถูกเขาแกล้งกลับคืนบ้าง ก็เลยหัวฟัดหัวเหวี่ยง เลยเดินไปจิกเจ้าคฆามหัศจรรย์ที่พยัฆค์ตั้งชื่อเรียกมาใช้งานแบกระฟัดกระเฟียด

วันนั้นเจ้าสมใสกับนายหมอนข้างของเขามันคงคิด 

นี่กุผิดอะไรเว้!!

เส้นแนวนอน

แนะนำนิยาย

แต่วันนี้เขาทำเป็นมึนตึง .. เย็นชามาก 

ตื่นมาหล่อนก็ไม่เจอเขารอนั่งร่วมมื้อเช้าเหมือนเคย คงเพราะตอนเมื่อค่ำวานที่เขาสั่งให้หล่อนไปขอโทษแฟนเขา แต่อินทิราไม่ยอม เพราะที่พูดออกไปต่อหน้าว่า 'ป้า..เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก' แถมหล่อนก็เรียกยัยนั่นว่า 'ป้า' ด้วย …

"วั๊ย! นี่สินะที่เขาเรียก..โฮโซฯสกุลต่ำ" ป้าโมโหจนตัวสั่น

"จ๊ะ ท่าจะให้เห็นชัด.. ตบปะ..ป้า..ตบกันไหม จะได้วัดกันชัดเจนกว่านี้!!" ยี่ยวน

สะใจที่เห็นคนโดนเรียกป้าโกรธปรี๊ด..กรี๊ดเป็นเปรต

โอ้ยสนุก! สาดเหล้าสาดข้าวของใส่กันนัว และคงจะมีการตบกันจริงๆ แล้วล่ะ ที่ถ้าหากว่าอาเสือจะไม่กระโดดเข้ามาห้ามทัพไว้ซะก่อนน่ะ

คนต้นเรื่องเองก็ทั้งงง ทั้งโกรธ.. ตวาดดุดังก้อง

"หยุดทำกิริยาตลาดล่างเดี๋ยวนี้นะ เอริล!"

"โอ๊ะ! งั้นอาเสือจะยอมรับใช่ไหมคะว่าตัวเองเป็นสินค้าที่วางอยู่กลางตลาดล่างราคาถูกๆ เพราะถ้าอาเป็นของราคาแพง หายาก มันจะมีคนตลาดล่างที่ไหนมีปัญญามาแย่งซื้อ แย่งหยิบกันง่ายๆ อย่างนี้! ใช่ปะ" หันไปแว้งกัดคนที่ถือหางฝั่งโน้น และจริงๆ ที่โดนเขาเอ็ดอยู่นี่ก็เพราะงานนี้เอริลเองที่อดทนจริตคนไม่ได้ เลยเป็นฝ่ายเปิดศึกก่อน

พยัคฆ์รีบรี่ ปรี่เข้ามายึดข้อมือคว้าคนก่อเรื่อง เถียงคอขึ้นเอ็น จะลากกลับบ้าน … แต่ก็

"ปากร้ายนักนะ .. ห๊ะ! .. โอ๊ะ!! .. กัดอาทำไม!!!" 

สะบัดข้อมือไหว เพราะเจอฤทธิ์คมฟันเข้าให้

แหง๋ล่ะสิ .. ยิ่งโกรธที่เขาว่าเอาแบบนั้น พอโมโหหนักจนทำอะไรไม่ถูก เลยเลือกทำร้ายเขาแทน … เจ้าของต้องรีบสะบัดข้อมือหนี ไม่งั้นคงโดนหล่อนแทะหายไปทั้งท่อน

สุดท้ายก็โดนคนโมโหลากกลับบ้าน ต่อมาเขาก็เลยไม่ยอมพูดกับหล่อน ข้าวก็ไม่รอจะอยู่กินด้วย

ก็ไม่ง้อนะ!! ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องมาพูดกันเลย!! 

(นั่งกอดเข่า ... ปาดน้ำตาจนตาจะปูด!!)

จนกระทั่งบ่ายหล่อนนึกเซ็งๆ ก็เลยขับรถเข้าไปในเมือง เดินเล่น ซื้อของในห้างซึ่งมีแค่ของใช้ส่วนตัวนิดหน่อยเพราะที่นี่ก็เป็นแค่ห้างเล็กๆ ธรรมดาๆ หล่อนจึงแค่มาเดินเล่นแก้โมโหคน

กะจะไปส่องหาโรงแรมหาเช่าที่พักใหม่ด้วย ก็หล่อนตั้งใจว่าจะย้ายออกจากไร่ของอิตาดาบสคนนั้นด้วยแล้ว!!

เดินเลือกของเพลินก็ดันบังเอิญไป จ๊ะเอ๋! เอาเข้ากับนักการเมืองหนุ่มท้องถิ่นเข้า 

"สวัสดีครับ … คุณอินทิรา"

"อ๊ะ! คะ? … สวัสดี" ใบหน้างงงุน

"ผม .. พิภพครับ เราเคยเจอกันที่ไร่ของคุณเสือ"

"อ่อ .. ค่ะ .. จำได้แล้ว" โปรยยิ้ม .. ตาพราว

เพราะเริ่มจำได้ลางๆ ว่าคนนี้เคยมาที่ไร่ ติดต่อธุรกิจอะไรกับอาเสือสักอย่าง เขาเป็นนักการเมืองที่อายุไล่กันกับหล่อน แต่เก่งและสนใจการเมือง ทักทายพูดคุยกันอยู่สักพัก ตัดสินใจว่าน่าจะคบกันเอาไว้เป็นเพื่อนได้เผื่อไว้เกื้อกูลกันในวันข้างหน้า

อีกอย่างเขาเองก็คุยได้สนุกดีและเป็นกันเองด้วย คุยไปคุยมาจึงถามเจ้าบ้านถึงเรื่องรีสอร์ทว่ามีที่ไหน สวยๆ สงบๆ บ้าง เขาแนะนำ จึงคิดว่าเดี๋ยวจะไปดู ก็จะไปเองคนเดียวนี่แหละ 

อย่างที่บอกไปละว่า .. แม้โดยธรรมชาติ อินทิราก็เป็นคนค่อนข้างเจ้าชู้ แต่เจ้าชู้ไว้ก็เพื่อบริหารเสน่ห์ตัวเองเท่านั้น ไม่ค่อยจริงจังและไม่เคยสนใจอยากมีเซ็กซ์กับใครง่ายๆ หรอกนะ 

ยกเว้นแต่กับ 'อาเสือ' เท่านั้นล่ะ 

ซึ่งมันอาจเป็นเพราะ .. อาเสือเป็นคนที่มีฟีโรโมนดึงดูดใจหล่อนได้มากที่สุด แถมยังมีเซ็กอะพีลที่แข็งแกร่งสุดๆ สำหรับหล่อน ก็ขนาดว่าเจ้าอีริคที่หล่อนเผลอไปมีอะไรด้วยกันนั่นมันก็เพราะคารมกับคำสัญญาบ้าๆ ของหมอนั่นล้วนๆ เลยเชียว 

แต่กว่าเจ้าอีริคจะได้แอ้มหล่อนได้ ก็ต้องลงทุนจีบกันอยู่ตั้งนานเป็นปีๆ เลยนะ 

และหล่อนก็ดันโง่ ที่คิดไปเองว่ามันจะมาขอหล่อนแต่งงานด้วยจริงๆ จึงได้ยอมมันน่ะ

นิสัยฝรั่งส่วนใหญ่นั้นมักจะนิยมมีอะไรกันก่อนแต่ง นั่นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเรื่องการเข้ากันได้ ไม่ได้ ในเรื่องเซ็กซ์นั้นก็ถือว่ามันเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตคู่มาก 

ส่วนหล่อนเองก็ไม่ใช่คนไทยแท้ๆ พ่อแม่ก็ไม่ได้กีดกันเรื่องเวอร์จิ้นหรือไม่ แต่ที่เขาอับอายจนแทบจะเอาปี๊บคลุมหัวเดินกันตอนนี้ ก็เพราะคลิปนั่นมันว่อนไปในโลกโซเชียล  แล้วหล่อนก็จัดว่าเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหาร ซ้ำยังอยู่ในแผนกที่เป็นหน้าเป็นตาของบริษัทฯ แต่ดั๊นนนนน .. มามีเรื่องอื้อฉาวคาวๆ ซะเอง ก็แล้วมีใครบ้างล่ะที่จะไม่อาย ไม่ทุกข์ใจมากไปกว่าหล่อน

เดินซื้อของนานมาก .. จน

"หิวข้าวแล้วค่ะ แวะร้านนี้กันนะคะ"

หล่อนชี้มือ … 

พอกำลังจะหย่อนตัวลงนั่ง จู่ๆ ก็มีมือใหญ่แข็งกระด้างมาคว้าแขนเรียวนุ่มไว้หมับ .. 

หันขวับกลับไปมองว่าใครกัน ที่มันบังอาจมาขโมยแขนของหล่อนไป ก็เจอกับใบหน้าและสายตาวับเอาเรื่อง โกรธเคืองมากๆ ของพยัคฆ์เข้าให้

โอ้ย! ตาย!! หัวใจหล่อนกระเจิงตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม!!

อินทิราที่ว่าไม่กลัวไม่เกรงใครก็ยังจะเกือบเข่าอ่อน

ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา หล่อนไม่เคยเห็นเขาแสดงความโกรธ ดุดัด คล้ายคนที่พร้อมและต้องการจะเอาเรื่องใครสักคนมากๆ ในแบบนี้มาก่อนเลยนะ

พยัคฆ์จับแขนหล่อนเอาไว้แน่น จนอินทิราเกรงว่าถ้าขยับตัวผิดองศาไปสักนิด กระดูกแขนของหล่อนคงต้องหักเป๊าะ!! คาติดมือเขาไปได้ด้วยแน่ๆ

"อาเสือ ปล่อยเอริลนะคะ! เป็นบ้าอะไรของอากันล่ะนี่? จู่ๆ ถึงได้มาทำกักขฬะเป็นนักเลงโตอันธพาลแถวนี้!!"

อินทิราเสียงสั่นเมื่อโดนเขาลากหลุนๆ หัวซุกหัวซุนออกมาจากร้านอาหารแบบไม่มีบอกมีกล่าว แอบผวาหวาดกลัวว่าเขาจะทำร้ายชะมัดเลย ยิ่งตอนเห็นพิภพถลันตัวจะเข้ามาช่วย แต่พออาเสือหันขวับกลับไปมองตาวาบๆ ใส่แค่ครั้งเดียว หนุ่มน้อยที่น่าสงสารนั่นก็หัวหดกลับไปเฉยเลย ตอนนั้นหล่อนก็ยังจะเสียววาบแทนเขาจับใจเลยแหละ

แต่ตอนนี้ ใครจะมาช่วยหล่อนกันได้เล่านี้

ยิ่งพยัคฆ์ทำท่าไม่ตอบ ไม่ยอมพูดอะไรกับหล่อนเลยสักคำ จะมีก็แต่ดวงตาที่ดุมาก ดุจนขนาดอินทิราแม่ไฮโซฯสาวขาวีนที่ขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยกลัวคน แต่พอมาเจอสายตาดุอย่างนี้ของเขาเข้าก็กลัวจนมือไม้อ่อนไปหมดเลยนั่นแหละ อาศัยแต่แค่ปากที่ยังดี

พอกลับถึงบ้านเขาก็เอาหล่อนไปเขวี้ยงทิ้งไว้ในห้องพัก อินทิราซึ่งโมโหมากโวยวายจะเก็บของกลับบ้าน ทีนี้ก็เลยโดนเขาจับขังล๊อคกุญแจหน้าห้องเอาไว้ด้วย

ทุบเท่าไร ตะโกนขู่จะแจ้งตำรวจจับเขาอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย

บอกตรงๆ ตอนนี้หล่อนนี่ก็นึกกลัวเขาจับขั้วหัวใจ

แววตาเขามันเหมือนดุดันโกรธเกรี้ยวเอามากๆ หากพลาดท่าทำให้เขาโมโหมากกว่านี้ มีหวังหล่อนคงได้ไปนอนคุยกับรากมะม่วงท้ายไร่โน้นหรือเปล่า?

แต่ไม่เอานะ .. หล่อนคุยกะต้นไม้ไม่ค่อยเก่ง

จะโทรฯไปขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้ เพราะถูกเขายึดเอาโทรศัพท์ไปแล้ว

หิวข้าวมากเลยด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอิตาคุณอาดาบสนั่นดันมาโกรธเคืองอะไรหล่อนกันนักหนาขนาดนี้น่ะ?

แล้วตกดึกคืนนั้น เขาก็เปิดห้องเข้ามา อินทิราที่หลับอยู่ยังผวาเฮือกเพราะกลิ่นเหล้าจากตัวเขาคลุ้ง มากซะจนหล่อนแทบหายใจไม่ออก

"ทำไม อะไรมันจะ 'โหยหิว' กันนักหนาเลยห๊ะ!! เอริล!! อยากได้อยากโดนก็บอกมา .. อย่ามาทำข้ามหัวกันอย่างนี้!" 

เปิดปากอ้อแอ้จิกกัดมา อินทิรายังงงก่อนจะตัวชา ขนคอลุกตั้งด้วยความโกรธเมื่อตีความหมายของเขาออก  หน้างี้มืดจนลืมตัว จึงกระโจนเข้าใส่ร่างสูง กล้ามบึกอย่างไม่นึกกลัวตายกันอีกแล้วเชียวล่ะ 

ปากก็กรี๊ดๆ มือก็ทุบอกตีไหล่เขาบึกๆ

"อิอาเสือ!! อิอาปากหมา อย่ามาพูดจาทุเรศ" 

หล่อนอาจจะเซ็กซ์จัด แต่ก็ไม่ใช่คนส่ำส่อนที่จะไปนอนกับใครไม่เลือกนี่ เขามาใช้คำว่า 'โหยหิว' กับหล่อนมันถือเป็นถ้อยคำที่เธอรู้ความนัยหยาบๆ ของเขาดี และเธอไม่ชอบมันจึงโกรธเขารุนแรงมาก หากเขาโกรธอะไรก็ควรมาพูดมาบอกกับหล่อนดีๆ สิ! ไม่ใช่เริ่มมาก็มาด่ากันรุนแรงแบบนี้

"ทำไม ถูกด่าได้อย่างถึงใจเลยใช่ไหม ถึงได้ดีดดิ้น เป็นผีอีบ้าเข้าสิงแบบนี้"

กางกรงเล็บข่วนแขนเขาแควก .... เลือดไหลซิบ ๆ

พยัคฆ์เลยยิ่งโกรธเลือดขึ้นหน้ามาบ้าง ผลักหล่อนกระเด็นเซหลุนๆ ไปล้มบนเตียง ก่อนโผนทะยานมาทับร่างหล่อนกักไว้ไม่ให้ดิ้นหนี 

หล่อนกรีดร้อง งับแขนเขาหงับ!! จมเขี้ยว 

คนโดนกัดสบถสาบานลั่นๆ เอื้อมอีกมือมาบีบกราม อินทิราเจ็บเลยต้องปล่อย พอเขาหลุดจากเขี้ยวหล่อนมาก็สะบัดมือมากระชากจนชุดนอนบางขาดควาก หลุดติดมือไปทีเดียวทั้งชั้นนอกชั้นใน กระชากอีกครั้ง อันเดอร์แวร์ตัวกระจิ๋วก็หลุดติดนิ้วของเขาไปได้อย่างง่ายดาย

อินทิราใจหายวาบ หล่อนอาจจะเคยคิดว่าอยากจะมีเซ็กซ์กับเขาก็จริง แต่ไม่ใช่ในเวลาแบบนี้ ไม่ใช่จากตอนที่เขาเมาจนไม่ได้สติ และในขณะที่หล่อนก็โกรธจนจะเสียสติแบบนี้!!

"อาเสือ ปล่อยเอริลเดี๋ยวนี้!!" สั่งเสียงเฉียบ

"ปล่อยน่ะปล่อยแน่ แต่จะเอาไว้ปล่อยอย่างอื่นนะ"

พูดจบเขาที่ยังล๊อคแขนหล่อนเอาไว้อีกมือ ส่วนอีกมือก็เอื้อมคว้าเสื้อชั้นใน ที่เพิ่งจะกระชากหลุดออกไปของหล่อน รวบแขนทั้งสองและมัดไว้ด้วยกันด้วยเสื้อตัวจิ๋วตัวนั้นละ!!

"อาเสือ ไอ้บ้าเสือ ปล่อยนะ!!" ดิ้นขลุกขลัก

"ทำไมล่ะ? ครั้งนี้จะได้ใช้ของจริงเชียวนะ ไม่ดีหรือไงที่อาจะช่วยสงเคราะห์ให้ เห็นขยี้ข่มขืนไอ้เจ้าหมอนข้างอาอยู่ทุกคืน อางี้อิจฉามันจะตาย แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวคืนนี้จะให้เอริลลองของจริง สนุกกว่ากันเยอะเลย อร่อย เผ็ด แซบเวอร์เลยเชียวละอีหนูเอ๋ย"

"อย่ามาเรียกเอริลว่าอีหนู อาเสือ คนบ้า หยาบคาย แล้วงี้ก็แสดงว่าแอบย่องมาแอบดูกันอยู่ทุกคืนเลยหรือ? อิ๊! ไอ้ถ้ำมอง ไอ้คนโรคจิต!!" โกรธและอายจนหัวเหวี่ยง

"ใช่ แถมยังเคยเข้ามาลูบๆ คลำๆ ตอนนอนหมดแรง หลับสลบไปแล้วด้วย แต่ขนาดหลับก็ยังจะฤทธิ์เยอะชะมัด!!"

พูดก็ไม่พูดเปล่า ยังจะสาธิตโดยการลูบไล้มือสากๆ ที่เกิดจากการทำงานหนักลงมาบนปทุมคู่อวบขาว ยั่วยวนคนที่นอนดิ้นอยู่ใต้ร่างไปด้วย 

อินทิราขนลุกซู่ บังคับปากสั่นๆ ตนเองแทบไม่ไหว

"ไอ้อาเสือ ไอ้คนโรคจิต!!" 

ถึงว่าล่ะ! มีตั้งหลายคืนตอนที่มาอยู่ที่นี่ หล่อนก็หลงคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน ... ก็หล่อนน่ะฝันถึงเขา 

ฝันที่มีความสุข แต่มันก็ยังไม่เต็มอิ่มอยู่ดี .. แต่..เอ๊?

คราวนี้หล่อนหยุดดิ้นแล้ว เพราะมันมีความน่าสนใจในปฏิกิริยาบางอย่างของเขา

โอ๊ะ! ..... หรือว่า?

ใช่แล้วล่ะ! 

โฮ๊ะ! อิตาคุณอาคนบ้าคนนี่! ทีนี้ล่ะจะมาทำเป็นหวงทีตอนหล่อนทั้งยั่ว ทั้งอ่อยเขาก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่พอเขาเข้าใจว่าหล่อนจะไปอ่อยผู้ชายคนอื่นเลยโมโห งั้นหรอ!!

งั้น .. วันนี้ที่เขาบังเอิญผ่านมาเจอคงเพราะเข้ามาทำธุระในเมือง และคงจะแวะซื้อของในห้างแล้วดันเห็นหล่อนกับพิภพคุยหยอกล้อกัน เขาก็เลยฉุนเฉียว อาละวาดซะใหญ่โต

สมองเจ้าเล่ห์ของอินทิราสว่างวาบ รีบคิดกับดักวางแผนการแก้เผ็ดเสือผู้หญิงปากแข็งขึ้นมาได้ทันควัน 

แต่ว่า .. จะไม่มีความเสี่ยงไปหน่อยหรือว่าจะโดนเขาข่มขืนเอาเข้าให้!?!

"แล้วอาเสือต้องการจะทำอะไรเอริล" 

เสียงแข็ง

ภาวนาในใจว่า อย่าให้เขาจับสังเกตได้ว่าน้ำเสียงใสๆ ของหล่อนมันฟังดูแล้วไม่เข้มและโกรธเคืองมากเพียงพอ

"ก็ทำในสิ่งที่อยากทำมาตั้งแต่คืนแรกแล้วนั่นแหละ"

ฟังพูดเข้า .. จิกตาใส่เขา แต่พอเขายิ้มแบบทรงเสน่ห์มาให้

โอ้ย!! แย่แล้ว! หัวใจหล่อนมันกำลังจะละลายกลาย เป็นสายรุ้ง ... ฟรุ้งฟริ้ง!! ... 

อร๋ายย...เด๋วนะ! มันไม่ใช่งี้แล๋ว!!

"ที่นี้ตอบอามาว่า ไปทำอะไรกันมากับไอ้กระดูกอ่อน หน้าจืดนั่นหรือเปล่า?" 

"อาเสืออย่ามาพูดจาน่าตบปากหน่อยเลยค่ะ เราแค่บังเอิญเดินไปเจอกัน แล้วเขาก็แค่อาสาหิ้วของให้" 

ก่อนจะนึกถึงเรื่องอื่นขึ้นมาได้แล้วต้องทำตาโต

"โอ๊ะ!! แลมบี้จี๊ดลูกแม่! อาเสือทำอย่างงี้ได้อย่างไงคะ! อากำลังปล่อยรถเอริลทิ้งไว้ที่ห้างนะ" 

"โธ่! ยัยเด็กงกสมบัติเอ้ย! สั่งให้คนไปขับกลับมาด้วยแล้วล่ะน่ะ" 

คนโดนด่าว่างกกลอกตาโล่งใจ นี่ถ้าเกิดมันหายไปล่ะ พระหม่อมมารดาคงต้องตัดหางกุดๆ ของหล่อนปล่อยทิ้งท้ายวัดร้างจริงๆ เลยละ

"แล้วอาเสือก็เอามือออกจากหน้าอกเอริลซะทีสิ!!"

"ได้ทีล่ะสั่งใหญ่เลยนะอีหนู แล้วก็อย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องถ่วงเวลาไปหน่อยเลยน่ะ! ตอบมาซิ ว่าไปถึงไหนกันมาแล้วหรือยัง!!" 

หล่อนสู้อุตส่าห์แข็งใจสั่ง แต่เขากลับเปลี่ยนไปกอบกำ ขยุ้มผมนุ่มหนากระชากเบาๆ เพื่อเร่งเร้าให้หล่อนตอบในสิ่งสิ่งที่เขายังขุ่นใจ ซึ่งอินทิราก็แกล้งทำเป็นเตะถ่วงให้มันดูมีพิรุธอยู่นี่ละ

"ถึงไหนอะไรกันล่ะ! ก็เดินเล่นกันอยู่ที่ห้างนั่นมันจะไปได้ถึงไหน? แต่เขาจะคิดถึงไหน อย่างไร เอริลไม่รู้หรอก เจอกันวันนี้เราไม่ได้ไปมีอะไรกันนะ แต่วันอื่นละก็ .. อาจจะ..ไม่แน่" หลิวตาทำท่าฝันหวาน ยั่วโมโหคนร่างร้อนๆ ที่นอนทับจนอึดอัดซ้ำไปอีก

"คัน!!" 

ได้ผล!! เขาสบถตาลุกวาบจนหล่อนหัวหด

"ที่พูดอย่างนี้แปลว่าวันอื่นอาจจะไปมีกันงั้นหรือ"

จากนั้นอีกหนึ้งฝ่ามือกว้างๆ ก็เริ่มลูบไล้ร่างกายขาวเนียนนุ่ม เพิ่มน้ำหนักเฟ้นเคล้าจนอกอวบขาวแทบแตก

อินทิราขนลุกซู่กรูเกรียว ต้องรีบสะกดกั้นเสียงครางจนปากสั่น 

"อาเสือขา อย่ามาทำแบบนี้นะ เอริลคิดจะอะไรไม่ .. อะ .. ออกหรอกนี่!!" 

"อ่อ? ชอบแบบซาดิมส์ด้วยใช่ไหม? ดีเลย อาก็เป็นคนชอบแบบจัดหนัก จัดจ้านและเล่นแรงซะด้วยสิ"

หล่อนส่ายหัวดิก หน้าเหยเกเพราะเขาจุดอารมณ์ได้รุนแรงจนจะคิดอะไรไม่ออกแล้วล่ะสิ

บิดร่างให้ดูเหมือนจะยั่วยวนมากกว่าจะดิ้นหนี

พยัคฆ์...ยิ้ม เริ่มรู้เท่าทันเกมของแม่สาวน้อยที่เผลอเปิดไพ่ 

...นั่นไง…

หล่อนคงอยากเล่นเกมแซบๆ ร้อนแรง แนวตบจูบกับเขาอยู่แน่ ๆ ..... 

โถ๊ะ!! ก็เล่นได้ไม่ยากนักหรอก

"อาเสือเมามากแล้ว ออกไปค่ะ เอริลก็จะนอนแล้ว!!"

ปากไล่ แต่ร่างกายกลับคาดหวังสุดๆ สองขาเริ่มเปิดอ้าเพื่อจะได้ให้มือหนาเข้าซุกไซ้สำรวจได้สะดวก

"เดี๋ยวซี่ .. อย่าพึ่ง ... เรายังคุยสนุกๆ กันไม่จบเลย"

กลิ่นวิสกี้ชั้นดีที่เขาเพิ่งดื่มเขาไป มันยังอบอวลออกมาจากลมหายใจร้อนๆ ของเขา 

แต่จะจูบก็ไม่ยอมจูบ!! อินทิราเผลอเลียริมฝีปาก

มือเขาก็ยังทรมานจนเจียนจวนจะคลั่งจากการคาดหวังและรอคอย เลือดในร่างอย่างกับมันจะรุกเร้า เร่าร้อนฉ่าๆ ไปซะแทบทุกหยดเลยละมัง อีกทั้งหงุดหงิดโมโหที่มีคุณอาที่ไม่ค่อยจะตามใจหล่อนนักซักเท่าไรคนนี้  

โอ้ย! นี่หล่อนอยากได้เขาใจจะขาดแล้วนะ!!

พยัคฆ์หัวเราะ .. หึหึ .. ก่อนจะซุกซบใบหน้าแกร่ง

เส้นแนวนอน

แนะนำนิยาย